วันนี้จะมาโพสท์เรื่องเงินๆ ทองๆ บ้างครับ
ตอนสมัยเรียน ผมจำได้ว่าลิ้งค์เคยพูดว่า “คบกับคนที่มาฐานะเท่าๆ กันน่ะแหละสบายใจสุดแล้ว” ถึงตอนนั้นผมจะเข้าใจว่าลิ้งค์จะสื่อถึงการคบเป็นแฟนกัน แต่ก็ยังเห็นด้วยกับสถานการณ์ทั่วๆ ไป แม้ว่าจะยังไม่เคยประสบปัญหาอะไรในลักษณะดังกล่าวก็ตาม
หลายปีให้หลัง ผมเริ่มจะรู้สึกเสียแล้วสิ
ประเด็นก็คือในช่วงปีกว่าๆ มานี้ ผมมีโอกาสได้อยู่กับคนที่ทั้งมีฐานะสูงกว่าเราพอสมควร กับคนที่อาจพูดได้ว่าไม่ได้มีสภาพคล่องเท่ากับผมเท่าไหร่นัก (พยายามจะหาคำพูดที่ไม่ offense กระทบ แต่ไม่แน่ใจว่าหาได้ดีกว่านี้มั้ย) ก็ต้องพูดตามตรงว่า มีเรื่องชวนอึดอัดใจอยู่พอสมควรครับ
ในด้านหนึ่งถ้าเราเป็นคนที่มีกำลังจ่ายน้อยกว่า เวลาไปไหนมาไหนด้วย เราก็จะรู้สึกเกรงใจถ้าเราจะไม่สามารถกินหรือใช้อะไรที่มันสมฐานะหรือเป็นระดับที่อีกฝ่ายคุ้นเคยได้ (เพราะเราจ่ายไม่ไหว) ในขณะเดียวกัน จะให้อีกฝ่ายจ่ายให้ก็รู้สึกกระอักกระอ่วนพอสมควร
ในทางกลับกัน พอเราไปอยู่กับคนที่อาจจะใช้สอยน้อยกว่าเรา หลายๆ ครั้งที่เราอาจจะอยากกินอะไรอยากใช้อะไรที่มันหรูหราสักหน่อยก็จะรู้สึกอึดอัดกระวนกระวาย ว่าอีกฝ่ายจะรู้สึกอะไรหรือเปล่าที่เรากินอะไรใช้อะไรหรูกว่าเขา จะหาว่าเราเป็นพวกอวดรวยมั้ย? อย่างเช่นอาจจะสั่งอาหารสั่งน้ำอะไรที่มันแพงหน่อย หรือจะดูหนังแถวบน ฯลฯ ครั้นจะแบ่งให้ หรือออกเงินให้ก็กลัวว่าจะเป็นการ offense ดูถูกหรือเปล่า สรุปก็คืออึดอัดไปหมด
ถ้าให้พูดตามตรง ก็เลยต้องบอกเลยครับว่าถ้าเวลาจะไปเที่ยวไหนมาไหน ก็อยากจะไปกับคนที่มีกำลังจ่ายพอๆ กับเรา ไม่มากกว่าหรือน้อยกว่าเกินไปนัก เพราะก็ทำให้เราไม่ต้องคิดมาก บวกกับได้ซื้อได้ใช้ของในระดับที่เราพอใจพอดี
แต่ก็ไม่ได้หมายความว่า ผมจะคบกับคนที่ฐานะทางการเงินไม่เท่ากันไม่ได้หรอกนะครับ เพียงแต่ให้พูดตามตรง ถ้าไม่ใช่ว่าสนิทหรือรู้ใจกันมากๆ ถึงระดับหนึ่งแล้ว มันก็คงจะกระอักกระอ่วนอยู่พอสมควร ถ้าสนิทกันจริงๆ เราก็คงไม่ต้องกลัวว่าอีกฝ่ายจะคิดอะไร และก็คงพูดอะไรได้อย่างตรงไปตรงมา
พูดถึงเรื่องเงินๆ อีกอย่างทุกวันนี้ก็รู้สึกทำตัวไม่ถูกเหมือนกัน ว่าจะต้องแสดงออกถึงฐานะของตัวเองมากแค่ไหนถึงจะพอดี (ตั้งแต่มีปัญหาเรื่องคิวบิกฯ) เมื่อก่อนพยายามทำตัว low-profile เงียบๆ เจียมๆ ก็ชวนให้คนสงสัยว่าเอาเงินมาจากไหน พอพยายามแสดงฐานะตัวเองหลังๆ มานี่ก็เริ่มรู้สึกไม่ชอบเวลาถูกประชดประชันเรื่องเงินๆ ทองๆ สักเท่าไหร่ (แต่จริงๆ อาจจะต้องทำใจเพราะอย่างไรก็คงมีเรื่องให้โดนด่าอยู่ดี)
ปล. ถึงจะนอกเรื่อง แต่ก็ยังยืนยันจุดยืนเล็กๆ ของตัวเองว่าไม่มีเงินจ่ายซอฟท์แวร์ลิขสิทธิ์ ไม่ใช่ข้ออ้างในการละเมิดลิขสิทธิ์ แต่ทุกวันนี้ก็เซ็งที่เวลาเถียงอะไรทำนองนี้แล้วจะถูกแดกดันกลับว่าเพราะเรามีปัญญาจะจ่ายเลยไม่เข้าใจคนไม่มีเงินจะจ่าย เฮ้อ… (แต่ปากดีไปเรา ทุกวันนี้อัตราการละเมิดลิขสิทธิ์ก็ยังไม่ลงถึง 0% ดี ฮา…)
รู้สึกผมเองก็จะเคยให้เพื่อนเลี้ยงอยู่บ่อยๆ ฮ่า (จริงๆ ก็มีคนเดียวแหละที่มักจะช่วยออกให้ ถ้าเพื่อนคนอื่นปรกติบอกไปว่า ไม่มีตังค์ ก็จบ)
ผมว่าผมก็ไม่ได้จนอะไรนะ แต่รู้สึกจะเจอปัญหา liquidity ต่ำ perpetually ยังไงไม่รู้
ปล. พี่นัทซื้อหนังโป๊ป่าวครับ?
ถึงกับกระอักเลยทีเดียว (แต่อย่างน้อย piracy rate ก็ไม่ถึง 100% นะ 555+)
ผมว่า ถ้าไม่ใช่เรื่องกิน-เทียว ก็คงไม่เจอปัญหาเรื่องนี้รึเปล่าครับ?
จริงๆ แค่กินกับเที่ยวมันก็เกือบหมด social life แล้วนะครับ
เฮ้ยเหมือนถูก Refer ถึงข้าพเ้จ้า…
เอาเป็นว่า ในความคิดข้าพเจ้ามันมี Effect เยอะมากขึ้นเรื่อยๆ เมื่อเราโตขึ้น เป็นเรื่องที่น่าอึดอัดในบางครั้ง แต่สุดท้ายมิตรภาพที่ดีจะข้ามจุดนี้ไปได้ครับ