จริงๆ ตอนนี้ผมยังอยู่ที่ปราณบุรี เป็นจังหวะที่กำลังมาเที่ยวกับน้องๆ ในคิวบิกฯ (ที่นานๆ จะจัดกันได้สำเร็จสักทีหนึ่ง) การมาที่นี่ก็มีเหตุการณ์สะท้อนใจอยู่หลายเรื่องพอดูนะครับ เพียงแต่วันนี้มีเหตุเกิดอีกนิดหน่อย และผมคงรู้สึกอัดอั้นจนต้องพยายามพิมพ์บล็อกนี้บน iPad ก่อนที่จะกลับไปเขียนเรื่องอื่นๆ บนคอมที่บ้านอีกทีนึง
วันนี้มีการประกาศผลแอดมิชชัน หรือก็คือการประกาศว่าใครจะได้ติดมหา’ลัยไหนบ้าง จากที่เลือกไว้ 4 อันดับ
จริงๆ เหตุการณ์แบบนี้มันก็มีอยู่ทุกปีนะครับ แต่ปีนี้ดูจะเป็นหลักระยะทางในชีวิตผมเองสักหน่อยตรงที่มีน้องใกล้ๆ ตัวผมอยู่สองสามคนที่ต้องผิดหวังกับผลที่ได้รับ จากที่ปกติถ้าไม่ใช่คนใกล้ตัว ก็มักจะได้ตามที่หวังกันไว้ไม่ได้ผิดเพี้ยนอะไรมากมาย
จากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ดูจะสะกิดใจผมอยู่สองประเด็น เรื่องหนึ่งก็คงเป็นเรื่องของระบบการศึกษา และสังคมแห่งความคาดหวังที่คิดว่าบล็อก “ปริญญา ค่านิยม สังคมไทย” ของพอคงจะสะท้อนได้ชัดเจนอยู่พอสมควรอยู่แล้ว
อีกเรื่องหนึ่งคงเป็นการที่ผมรู้สึกมีอารมณ์ร่วมกับเหตุการณ์ครั้งนี้อย่างบอกไม่ถูก แม้ว่าน้องบางคนจะดูพยายามที่จะเก็บความรู้สึกผิดหวังไว้ แต่ผมก็อดจะรู้สึกเศร้าไปด้วยเสียไม่ได้ แม้ว่าผมเองจะไม่ค่อยต้องเครียดและลงทุนลงแรงอะไรมากมายกับการเข้ามหา’ลัย (เผื่อใครไม่ทราบ ผมได้โควต้าตั้งแต่ ม.4 เลยทำให้ช่วง ม.ปลายชิวมาก) แต่ผมเองก็อาจจะพอจินตนาการได้ถึงความตั้งใจของน้องๆ ที่ต้องขยันขันแข็งดูหนังสือเรียนพิเศษต่างๆ ด้วยความกดดัน และยิ่งเราพยายามมากเท่าไหร่ เมื่อผลไม่เป็นดังหวัง เราก็ยิ่งล้มเจ็บลงมากเท่านั้น
ที่น่าสังเกตคือ ผมรู้สึกเศร้าไปกับความผิดหวังนี้ด้วยอย่างบอกไม่ถูก จนรู้สึกอัศจรรย์ใจขึ้นมาว่า ชีวิตของคนเราจะเกี่ยวพันกันได้ขนาดนี้
จริงๆ เพราะเรื่องนี้เอง คงเป็นสิ่งที่ทำให้การให้มีอยู่บนโลกใบนี้ เพราะเราจะร่วมมีความสุขกับความสุขของคนที่ได้รับ แม้ว่าเราจะต้องเสียอะไรไปบางอย่างจากการให้นั้นเอง
และเช่นเดียวกัน ผมจึงอดที่จะต้องเจ็บปวดไปด้วยไม่ได้ ในค่ำคืนริมทะเลแห่งนี้
ยิ่งผูกพันเท่าไหร่ อารมณ์เราก็ยิ่งถูกอิทธิพลจากฅนใกล้ตัวมากขึ้นเท่านั้น อันนี้เห็นด้วยครับ