ไม่ค่อยชอบบรรยากาศน้ำท่วมตอนนี้เลยครับ
เผื่อในอนาคตใครจะมาอ่าน บล็อกนี้เขียนขึ้นระหว่างเหตุการณ์อุทกภัยในประเทศไทย พ.ศ. 2554ที่ดูจะรุนแรงที่สุดในรอบหลายปี (หรือแม้แต่หลายสิบปี)
จริงๆ เหตุการณ์น้ำท่วม มาตรการต่อสู้อย่างหนึ่งที่เห็นได้คงเป็นเรื่องของการกั้นน้ำด้วยสารพัดวิธีต่างๆ
แม้จะเป็นวิธีที่ดูดี แต่หากดูที่ตรรกะง่ายๆ ว่าหากแห้งที่หนึ่ง อีกที่ก็ต้องท่วม ก็ทำให้สลดใจได้พอดูเหมือนกัน
แม้ว่าเราจะสามารถใช้ข้ออ้างในเรื่องความสำคัญทางเศรษฐกิจ สังคม และวัฒนธรรมเพื่อประเมินความสำคัญของพื้นที่ต่างๆ ที่แตกต่างกัน ในการตัดสินว่าที่ใดควรท่วม ที่ใดไม่ควรท่วมก็ตาม (และดูว่าไม่มีวิธีอื่นใดที่จะตัดสินได้ดีกว่าวิธีนี้) มันก็อดทำให้หดหู่ใจเล็กๆ ไม่ได้ เมื่อต้องมีใครสูญเสียเพื่อให้ใครอีกคนรอดพ้น
เมื่อไม่กี่สัปดาห์มานี้ ผมต้องผ่านการตัดสินใจที่ค่อนข้างยากลำบากกับการเลื่อนค่าย Cubic Creative Camp 7
แม้ว่าในมุมมองของหลายๆ คนอาจคิดว่าการตัดสินใจเลื่อนนั้นง่าย (อย่างที่หลายๆ ครั้งผมอาจวิพากษ์วิจารณ์การตัดสินใจที่เชื่องช้าของหน่วยงานหรือองค์กรอื่นๆ) แต่การจัดสมดุลขององค์ประกอบหลายๆ ด้าน ทั้งเรื่องของจิตใจความรู้สึกทีมงานแต่ละคน ความคาดหวัง ความปลอดภัยของน้องชาวค่าย ความต้องการของผู้ปกครอง คุณภาพของงาน การจัดการ การขนส่ง ไปจนถึงเรื่องของเงินทองกลับไม่ได้ง่ายอย่างที่คิดนัก
สุดท้าย ผมตัดสินใจที่จะเปิดโอกาสให้ผู้เข้าร่วมขอรับเงินค่าสมัครคืนทั้งหมดโดยไม่หักค่าใช้จ่ายใดๆ ซึ่งหากมองในมุมมองของธุรกิจ คิวบิกครีเอทีฟต้องสูญเสียค่าใช้จ่าย และโอกาสจากการเลื่อนนี้อยู่หลายแสน (ซึ่งถึงจะดูไม่เยอะ แต่ก็เป็นเลขที่มีนัยสำคัญสำหรับคิวบิกครีเอทีฟ จากที่ไม่ค่อยจะมีกำไรอยู่แล้ว)
แต่ถึงกระนั้น ผมคงไม่อาจเทียบความสูญเสียนี้ กับทรัพย์สินและชีวิตคนอื่นๆ อีกมากมายในช่วงเวลานี้
ในช่วงเวลาแห่งความสูญเสียนี้ คงยาก ถ้าผมจะยืนกรานไม่ยอมเสียอะไรเลย และอาจง่ายกว่า ที่เราจะยอมเสีย เพื่อให้คนอื่นๆ ที่สูญเสียอะไรไปแล้ว ได้อะไรคืนมาบ้าง แม้จะเป็นเพียงเงินไม่กี่พันบาทก็ตาม
Our lives are zero-summed. Don’t expect to gain something without losing anything.
Because we’re all already naked. It doesn’t matter what we could have, but what we left for others when we’re gone.
ตัดสินใจถูกแล้วล่ะ