เมื่อวานผมมีโอกาสได้ไป Universal Studios Singapore อีกครั้ง (เป็นครั้งที่ 2) ครับ
จริงๆ ก็ไม่ได้คาดคิดว่าจะได้ไปอีกครั้งเร็วขนาดนี้หลังจากที่ไปมาครั้งที่แล้วตอนเดือนเมษายนที่ผ่านมา แต่เนื่องจากเป็นผู้ประสบภัยและอพยพหนีมาอยู่กับพี่สาวที่สิงค์โปร์ ก็ไม่รู้จะทำอะไรดี ไหนๆ ก็ไหนๆ ก็เลยคิดว่าไปเที่ยวอีกสักครั้งก็ดี เพราะก็เป็นคนชอบเที่ยวสวนสนุกอยู่แล้ว
โดยปกติ สวนสนุกจะเป็นตัวเลือกอันดับต้นๆ ของผมเวลาไปเที่ยวที่ไหนเลยนะครับ ถ้าถามผมเวลาไปเที่ยวต่างประเทศ ผมจะไม่ค่อยสนใจพวกการเดินดูศิลปวัฒนธรรม ชมเมือง ดูวิถีชีวิต หรือพิพิธภัณฑ์อะไรทั้งหลายแหล่สักเท่าไหร่ (ยกเว้น Museum of Sex ที่ NY)
ปกติถ้าผมไปเที่ยวที่ไหน ผมเล็งอยู่สองสามอย่างเท่านั้นครับ คือสวนสนุก อาหาร และช็อปปิ้ง
เพราะงั้นตั้งแต่ผมไปญี่ปุ่นตอนนั้น แผนการเดินทางของผมก็จะชัดเจนมากครับ คือไปสวนสนุกให้ครบ แต่ว้งวัดอะไรเนี่ยไม่ต้อง จะสวยจะงามแค่ไหนก็ช่างหัวมัน
ทั้งนี้ทั้งนั้น ผมเองคงจัดตัวเองได้ว่าเป็นคนที่หลงไหลในสวนสนุกอยู่พอสมควร
ประสบการณ์สวนสนุกของผมตั้งแต่เด็กๆ คงเริ่มต้นตั้งแต่การไปแดนเนรมิต ซึ่งกว่าจะได้ไปเที่ยวเอง (แบบไม่ใช่ติดสอยห้อยตามผู้ปกครอง) ก็ตอนช่วง ม.ต้น ที่มันก็จะปิดซะแล้ว หลังจากนั้นเมื่อสบโอกาส (โดยเฉพาะอย่างยิ่งช่วงปิดเกษตรแฟร์) แทบทุกๆ ปีผมก็จะไปดรีมเวิล์ดเสมอๆ
ที่ผมมักจะติดใจกับสวนสนุกพวกนี้ที่สุดก็คงเป็นสารพัดเครื่องเล่นกรี๊ดกร๊าดน่ะแหละครับ (สรุปคือเป็นคนชอบเล่นเสียว) ดังนั้นเวลาไปเที่ยวพวกนี้ ก็มักจะซื้อบัตรแบบไม่อั้น แล้วก็เล่นมันทั้งวันอยู่สองสามเครื่องเล่นเป็นเกือบสิบรอบ มีครั้งหนึ่งที่ผมเคยไปดรีมเวิล์ดแล้วเล่นเฮอร์ริเคนสัก 18 รอบก็มี จำได้ว่าเล่นจนพี่ที่เค้าคุมจำได้ ตอนรอบสุดท้ายก่อนสวนสนุกปิด พี่แกเลยจัดเต็มซะนานกว่าปกติสัก 3 เท่าได้ ถึงขนาดพูดออกไมค์เลยว่า “ยังไม่ยอมกลับกันใช่มั้ย”
แต่มุมมองที่ผมมีต่อสวนสนุกก็ต้องพลิกกลับไปพอสมควร หลังจากที่ผมได้มีโอกาสไป Tokyo Disney Resort เมื่อสามสี่ปีที่แล้ว จากความคาดหวังที่จะมาเล่นเสียวในสวนสนุกอย่างเดียวแบบแต่ก่อน ผมก็รู้สึกถึงอะไรที่มากกว่าของการเป็นสวนสนุก
สิ่งหนึ่งที่ผมสัมผัสได้จาก Tokyo Disney Resort ตอนนั้นคงเป็นกลิ่นไอของความสุข ที่มันมีอยู่ทุกที่ ทุกรายละเอียด ตั้งแต่วินาทีที่เราย่างเท้าก้าวเข้าไป
อาจฟังดูเวอร์ แต่ผมยังไม่เคยไปสวนสนุกของที่ไหนนอกจากของ Disney ที่ทำให้มันมีอารมณ์แบบนั้นได้จริงๆ แต่เรื่องเล็กๆ น้อยๆ อย่างการที่ทีมงานทุกคนยิ้มแทบจะตลอดเวลา ที่ยังไม่เคยเจอที่ไหน (แม้แต่ Universal Studios) ทำได้อย่างของ Disney
เพราะงั้น การมาเที่ยว USS ของผมในครั้งนี้ แม้ว่าจะรื่นรมย์และได้เสียวตามสภาพแล้ว ก็ยังอดที่จะหงุดหงิดในจุดเล็กๆ น้อยๆ อีกหลายจุดที่ทำอย่าง Disney ไม่ได้อีกพอสมควร
จริงๆ ตั้งแต่เด็กๆ ผมก็เคยฝันนะครับว่า สวนสนุกเป็นอีกธุรกิจหนึ่งที่ถ้าเป็นไปได้ ผมก็อยากจะมีโอกาสได้ทำ (ไม่ว่าจะในทางใดก็ทางหนึ่ง นอกเหนือจากธุรกิจการศึกษา และธุรกิจอุตสาหกรรมบันเทิงแล้ว) แม้ว่าในประเทศไทยนี่อาจจะยากอยู่สักหน่อยที่ค่าครองชีพอาจจะต่ำเกินกว่าที่จะรองรับธุรกิจระดับนี้
สำหรับตัวผมเอง ไม่ได้นิยามว่าสวนสนุกคือที่ที่จะต้องมีเครื่องเล่นที่หวาดเสียวที่สุด หวือหวาที่สุด หรือกิจกรรมที่ตื่นเต้นที่สุดแต่อย่างใด
หากแต่เป็นสถานที่ที่ซึ่งแม้ใครได้ย่างเท้าก้าวเข้ามาแม้เพียงก้าวแรก ก็ต้องยิ้มได้ทันที
อาห์…เล่น RollerCoaster Tycoon ดีกว่า
ฮู้ย พวกเกมสมัยใหม่ http://bit.ly/rBDJJY