วันนี้หลังจากที่แหกขี้ตาตื่นขึ้นมาได้แล้ว ก็ตัดสินใจว่าจะไปเดิน Trails ริมผา Grand Canyon กัน โดยทางที่ไปก็จะเป็นทางที่ค่อนข้างง่ายมาก ไม่ได้มีการปีนปายอะไร เดินชมวิวเฉยๆ แต่ระยะทางรวมๆ แล้วก็เยอะพอสมควร ระหว่างทางที่เดินเจอคนไทยด้วย
ระหว่างทางก็จะมีจุดที่เป็นนิทรรศการแสดงอธิบายการเกิด Grand Canyon ตามหลักธรณีวิทยาต่างๆ ที่บอกตามตรงว่าอ่านไม่ค่อยเข้าใจเสียเลย รู้แต่ว่าที่เป็นเหวลงไปหลักๆ เกิดจากแม่น้ำ Colorado ที่ค่อยๆ กัดเซาะหินลงไปเรื่อยๆ จนกลายเป็นผา โดยปัจจัยที่ช่วยให้น้ำเจาะชั้นหินลงไปได้เร็วคือแรงโน้มถ่วงกับสภาพอากาศที่เย็นจนน้ำจะเป็นน้ำแข็งได้ในบางเวลา และเกิดการขยายตัวเซาะหินลงไป
นอกจากนี้ระหว่างทางเดิน เขายังทำเป็นเหมือนให้เราเดินย้อนเวลาไปเรื่อยๆ มีจุดแปะที่พื้นว่าถึงกี่ร้อยกี่ล้านปีก่อนหน้านี้แล้ว สักพักก็จะมีตัวอย่างที่ตัดมาจากชั้นหินในช่วงอายุเท่านั้นๆ ให้ดูเล่นจับเล่นได้
ในวันนี้มื้อเย็นเราเกิดขี้เกียจทำอาหารขึ้นมา เลยตัดสินใจไปกินคาเฟทีเรียใกล้ๆ แคมป์กราวด์แทน มีสลัดชั่งออนซ์สะใจราคาถูกมาก
หลังจากนั้นเราก็พบกับเรื่องที่น่าตื่นเต้นระทึกใจ เรื่องมีอยู่ว่าหลังจากที่เราเดินทางออกจาก Salt Lake City มาเมือง Page จนถึง Grand Canyon ก็พบว่ามือถือของเราไม่มีสัญญาณเลย จึงทำให้ถูกตัดขาดจากโลกภายนอก ไม่สามารถเข้าถึงอินเทอร์เน็ตได้ ทีนี้เป้าหมายต่อไปของเราหลังจากนี้คือ Las Vegas เราพักกับโฮสต์จาก Airbnb เจ้าหนึ่ง ที่ปรากฎว่าเขาติดต่อเราไม่ได้ แล้วเลยยกเลิกการจองไป แล้วเราก็เพิ่งมารู้ตอนเย็นที่สามารถใช้เน็ตได้ที่ร้านอาหาร เลยเกิดความวุ่นวายที่จะต้องพยายามติดต่อโฮสต์ Airbnb คนอื่นๆ เพื่อหาที่พักแทน (ซึ่งจริงๆ ก็มีข้อดีเพราะพอโดนยกเลิกเราเลยได้โบนัสเพิ่มอีกประมาณ 20 กว่ายูโรเพื่อใช้ในการจองที่ที่แพงขึ้นได้)
สุดท้ายในวันนี้เราก็ยังไม่สามารถหาโฮสต์ใหม่ได้ แม้จะอยู่ที่ร้านจนปิดสองทุ่ม จึงเหลือทางเลือกเดียวว่าพรุ่งนี้จะต้องไปลุ้นกันต่อ
พอกลับมาที่แคมป์กราวน์ เปลี่ยนเสื้อผ้าเตรียมนอน เปิด Dexter ดูสองสามตอน แล้วก็เตรียมเข้านอน วันนี้ผมตัดสินใจว่าจะไปนอนข้างหน้าบ้างแล้ว เพราะคิดว่าพออยู่ข้างหลังแล้วมีพื้นที่กระจกเยอะกว่าที่ความเย็นทะลุเข้ามาได้เยอะ ถ้าเป็นที่นั่งคนขับตรงขายังซุกอยู่ข้างล่าง ก็ค้นพบว่าสามารถนอนหลับได้สบายขึ้น แต่ยังคงต้องเปิดฮีตเตอร์ตอนดึกๆ อยู่ดี
หมายเหตุ: โพสท์นี้เป็นโพสท์ย้อนหลัง