ทริปนี้เกิดขึ้นมาจากการดิ้นรนเพื่อต่ออายุบัตรเงิน Marco Polo Club จวบพอเหมาะพอดีที่ Malaysia Airlines มีโปรโมชั่นตั๋ว Business Class ราคาเอื้อมถึงพอดี คือราคาจริงๆ มันก็สมเหตุสมผลกับระดับการบริการของ Malaysia Airlines อะนะ แต่เนื่องจากมันเป็น Business Class มันก็เลยจะได้แต้มของสมาชิกเยอะกว่าในราคาแสนคุ้ม นั่นเอง
กลับมาที่ทริป ในวันแรกก็ขึ้นเครื่องมาแบบชิคๆ เป็นผู้โดยสาร Business Class เพียงคนเดียวของเครื่อง ได้รับการลงแขกบริการโดยลูกเรือ 2 คน จนเดินทางมาถึงที่ KUL ฝนดันตกพอดี ก็ฆ่าเวลาอยู่ที่สนามบินสักพัก แลกเงิน (ซึ่งแอบเดาและเดาถูกว่าเอาเงินไทยมาแลกที่นี่คุ้มกว่าแลกที่สุวรรณภูมิ) และซื้อซิม แล้วก็นั่งรถไฟเข้าเมืองมา
ด้วยความซ่าส์ ก็เลยคิดว่าจะแบกเป้เดินชมเมือง แวะถามสถานที่ต่างๆ ไปจนถึงโรงแรม Sheraton ก็เริ่มออกเดินทางตามแผนที่ไปเรื่อยๆ คุณพระ อากาศและแดดช่างร้อนแรง แต่ไม่เป็นไร เดินกางร่มแบบชิคๆ ไม่แคร์สายตาใคร
เดินมาเรื่อยๆ ถึงเป้าหมายแรกที่ Merdeka Square ตรงนี้มีความสำคัญคือเป็นที่ที่ใช้ในการประกาศ independence อิสระภาพ (ไม่แน่ใจว่าใช้คำว่าใช้เอกราชได้มั้ยนะ?) โดยที่คำว่า Merdeka ในภาษามาเลย์มีความหมายถึงอิสระ ซึ่งสถานที่สำคัญๆ ทางราชการก็จะอยู่รอบๆ แถวนี้เยอะ (Poketstop แถวนี้ก็เยอะ ฟรุ้งฟริ้งเต็มไปหมดอีกต่างหาก)
หลังจากนั้นก็เดินๆ มาเรื่อยๆ จนโฉบมาเห็น Kuala Lumpur Tower แบบแว้บๆ เลยถ่ายรูปเก็บไว้
และตอนแรกก็คิดว่าจะอ้อมไปดูนั่นดูนี่ แต่สักพักก็รู้สึกไม่ไหวเพราะนอกจากจะร้อนแล้ว เมื่อคืนนอนน้อยเพราะออกจากบ้านตั้งแต่ตีสาม แล้วยังไม่หายป่วยดีอีกต่างหาก เลยถอดใจรีบๆ เดินไปให้ถึง Sheraton
พอถึงปุ๊ป เช็คอิน ตื่นเต้นกับขนาดของห้องเล็กน้อย (แต่มานึกๆ ดู พบว่าโรงแรมที่ KUL เทียบกับค่ากินไรงี้แล้วถือว่าถูกนะ ถูกกว่ากรุงเทพฯ อีก) แล้วก็หลับเป็นตาย เย็นๆ ตื่นออกมาไปกินอาหารฟู้ดคอร์ทที่ห้าง แล้วกลับมานอนต่อ