วันนี้ตื่นเช้ามาอย่างสดใสจากการนอนเกิน 10 ชั่วโมง ก็ฟังพอบ่นนิดหน่อยเรื่องนอนกัดฟันกับนอนละเมอ แล้วก็ตื่นมาทานอาหารเวฟที่ซื้อไว้ตั้งแต่เมื่อวานมูลค่า $2 กับกินแอปเปิลที่ตัดด้วยเครื่องตัดที่มีอยู่ที่พัก เลยเอามาลองทำ แล้วก็เริ่มออกเดินทาง โดยวันนี้มีเป้าหมายที่จะไปคือ Navajo Bridge, Horseshoe Bend และ Antelope Canyon
เริ่มต้นเราก็ออกเดินทางจากเมือง Kanab ไป Navajo Bridge โดยใช้เวลาเดินทางประมาณ 2 ชั่วโมง ระหว่างทางก็เจอจุดชมวิวเลยแอบลงไปถ่ายรูปเล่นเล็กน้อย ก่อนที่จะขับรถไปถึง Navajo Bridge
ตัว Navajo Bridge เป็นสะพานเหล็กที่สร้างตั้งแต่ปี 1929 โดยวิธีการสร้างต้องใช้วิธีค่อยๆ ต่อสะพานจากสองข้างเข้ามาตรงกลางเรื่อยๆ จนมาต่อกันตรงกลางเป็นสะพาน แต่ก็ไม่ได้ต่อสนิทกันซะทีเดียวต้องเว้นระยะแล้วทำกระดานข้ามผ่านตามหลักการออกแบบสะพานทั่วไปที่ต้องเผื่อการยืดหดของสะพานจากความร้อน ต่อมาในปี 1995 ก็มีการสร้างสะพานอีกอันขึ้นมาเป็นสะพานที่กว้างขึ้นให้รถวิ่งผ่านสวนกันได้ และเลียนแบบดีไซน์ให้เหมือนกับสะพานเก่า โดยสะพานเก่าก็เลยถูกทำให้กลายเป็นสะพานคนเดินและกลายเป็นจุดท่องเที่ยวแทน
หลังจากนั้นเราก็ไปที่จุดชมวิว Horseshoe Bend ตามที่กฤษษี่ได้แนะนำไว้ ซึ่งเป็นแม่น้ำที่กัดเซาะผ่านภูเขาหินเป็นรูปเกือกม้า ซึ่งจากที่จอดรถจะต้องเดินกลางแดดไปประมาณ 7 นาที ด้วยความที่ขี้เกียจทาครีมกันแดด กอรปกับที่นี่มีคนเอเชียไปเที่ยวเยอะมากต่างจากเมื่อวาน เลยเนียนใช้วิธีกางร่มเดินเข้าไปแทน (ไม่อายมากเพราะเอเชียคนอื่นก็จะมีทำบ้างเช่นกัน) ปรากฎว่าไม่สามารถทานทนได้ หน้าเบิร์นไปเล็กน้อย
เสร็จจาก Horseshoe Bend ก็เตรียมที่จะไปเที่ยว Antelope Canyon โดยเราจะต้องไปตั้งหลักที่เมือง Page ที่อยู่ใกล้ๆ กันนี้ แวะกิน McDonald’s เป็นอาหารกลางวัน โดยงกสั่งเบอร์เกอร์ไก่ $1 มาอันเดียว พอทานเสร็จ ทาครีมกันแดด แล้วก็ออกไปหาซื้อทัวร์ Antelope Canyon ในตัวเมือง ก็ปรากฎว่าทัวร์แม่งเต็มหมดแล้ว เลยตัดสินใจไปตายเอาดาบหน้าขับรถไปที่หน้างานเลย
Antelope Canyon เนี่ยจะมีให้เลือกเดินดูได้สองฝั่ง เรียกเป็น Upper กับ Lower โดยลักษณะของตัวซอกเขาจะต่างกันเล็กน้อย แต่ว่าโดยทั่วไปคนจะนิยมไป Upper มากกว่าเพราะ Upper จะมีช่วงเวลาที่แสงส่องผ่านลงมาได้สวยมากๆ แต่เนื่องจากเราไปค่อนข้างช้าแล้ว กอรปกลับกลัวฝูงชนขี้เกียจรอคิวนาน เลยตัดสินใจไปที่ Lower แทน ค่าเสียหายคนละ $33 แบ่งเป็นค่าทัวร์ $25 กับค่าเข้า $8
หลังจากต่อคิวประมาณ 40 นาทีก็ได้เวลาลงไป ก็ใช้เวลาเดินไปในนั้นเรื่อยๆ น่าจะสักชั่วโมงได้ ก็รู้สึกว่ามันสวยดี แถมถ่ายรูปง่ายด้วย ถ่ายมุมไหนก็สวย ระหว่างที่เดินๆ ไปเขาก็ให้ความรู้ไปด้วยว่าซอกเขาอันนี้เริ่มต้นจากทะเลทรายที่มีฝนตกนานๆ ทีลงมา ทรายกับน้ำที่ทับถมกันก็ค่อยๆ กดทับและแข็งตัวเป็นหินคล้ายๆ กับเครื่องปั้นดินเผา เมื่อเวลาผ่านไปพอมีลมพัดทรายส่วนที่ไม่แข็งออกไปมันก็เลยจะเหลือแต่ส่วนที่แข็งอยู่ และซอกเขาตรงกลางก็เกิดจากน้ำท่วมฉับพลันที่จะพัดผ่านซอกนี้เป็นระยะๆ ร่วมกับลมที่ค่อยๆ เซาะให้มันเนียนสวยขนาดนี้
หลังจบแผนการทั้งหมดในวันนี้ ก็ขับรถออกจาก Page แวะทานข้าวที่ Kanab แล้วก็ขับต่อยาวมาพักเตรียมเที่ยว Bryce Canyon พรุ่งนี้ที่เมือง Tropic
Zerothman 