ออกมาตอนเช้าหลังจากทานอาหารที่โรงแรม (ซึ่งกากมาก) ก็รีบเดินทางไปที่ Yosemite ระหว่างขับรถมาก็ฟังบัลลังก์เมฆเดอะมิวสิคัลจบไปหนึ่งรอบแก้ง่วง ฟังไปฟังมาจนเลยเมืองที่ตั้งใจจะแวะผ่านเพื่อเข้า Yosemite ทางใต้ กลายเป็นว่ามาทางตะวันตกแทน ซึ่งเป็นทางที่รถติดกว่ามาก เลยหยุดแวะแวะทาน Subway เมนู Sub of the Day หนึ่งฟุต $6 (สรุปคือค่าเสียหายคนละ $3) แล้วขับย้อนกลับมาทางทิศใต้แทน

พอเข้ามาถึงก็บ่ายๆ เย็นๆ ก็เลยตรงไปที่จุดชมวิว Glacier Point ที่จะเห็นหน้าผา Half Dome ที่เป็นไฮไลท์ของ Yosemite เลย ซึ่งปกติถ้ามาช่วงกลางวันเขาจะปิดไม่ให้ขับรถขึ้นไปเอง ต้องนั่งรถบัสของเขาเท่านั้นเพราะคนเยอะมาก แต่เรามาเย็นแล้วเลยขับรถตรงขึ้นไปได้เลย




หลังจากนั้นก็ลงมาขับรถลงมาแวะที่จุดชมวิว Tunnel Point และน้ำตก Bridal Veil ที่ละอองสุดชุ่มฉ่ำ หรือถ้าพูดให้ถูก เปียกโชก


และแวะถ่ายรูปวิวหน้าผา El Capitan

เสร็จแล้วก็ประมาณ 2 ทุ่ม ขับรถไปที่พัก Yosemite Bug ที่พักระดับหนึ่งดาว เป็นห้องพักแบบ Tent Cabin ราคาคืนละ $70 สองคน ซึ่งถือว่าถูกมากสำหรับแถวนี้ แต่แลกกับการได้เป็นเพิงและต้องไปห้องน้ำรวม แถมไม่มีการเชื่อมต่อใดๆ สัญญาณโทรศัพท์ก็ไม่มี Wi-Fi ก็ไม่มี เลยต้องไปขอยืมเครื่องของพนักงานโรงแรมขอส่งอีเมล แล้วระหว่างที่เขาเผลอเราก็ไปแอบตั้งให้เครื่องมันแชร์ Wi-Fi ออกมาแล้วตั้งรหัสผ่านที่เรารู้คนเดียวเป็นการแก้ปัญหา ทำให้สุดท้ายตอนกลางคืนสามารถเดินมาตรงออฟฟิศเพื่อใช้เน็ตได้ แต่ก็เดินไกลอยู่ดี
และสุดท้ายปิดท้ายวันด้วยเมนู Pork Chop ค่าเสียหาย $16
