พอดีเมื่อวันก่อนจะต้องมาทำธุระที่สิงคโปร์ ตอนจองได้จังหวะตั๋วโปรฯ ของ Cathay Pacific พอดีที่ประมาณ 5 พันกว่าบาทไปกลับเป็น Economy คลาสตั๋ว Q ทีนี้ระหว่างที่นั่งอยู่บนแท็กซี่ไอโฟนก็เด้งขึ้นมาเตือนบอกว่าที่นั่งถูกเปลี่ยน เลยรู้ว่าครั้งนี้ได้อัปเกรดอีกแล้ว พอกดเข้าไปดูก็เห็นว่าเป็น Premium Economy ถึงในใจจะแอบหวังให้เป็น Business แต่ก็ไม่เป็นไร ก็ถือว่าเลยจะได้ลอง Premium Economy บนเครื่องใหม่ไปด้วยเลยทีเดียว

IMG_0073
พอแอปเด้งก็กดเข้ามาดู เห็นว่า Boarding Pass เปลี่ยนเป็น Premium Economy แล้ว

จริงๆ รูท BKK-SIN ของ CX นี่เป็นรูทที่เครื่องเต็มบ่อยมาก เพราะงั้นตั้งแต่ที่บินๆ มาได้อัปเกรดประมาณ 30% ของไฟลท์ทั้งหมด เพราะงั้นถ้าใครเป็นสมาชิกของกลุ่ม oneworld และไม่เกี่ยงที่จะบินไฟลท์กลางวัน แนะนำให้บินไฟล์ท CX713/CX712 นี้เลย

พอถึงสนามบิน ก็เข้าไปเช็คอินที่เคานเตอร์เพื่อเอา Boarding Pass กระดาษอีกที ซึ่งพนักงานก็บอกว่าวันนี้เครื่องเต็ม เลยได้อัปเกรดเป็น Premium Economy นะ เราก็ทำเป็นแปลกใจอุ๊ยขอบคุณครับอะไรตามประสาไป

หลังจากนั้นก็ไปทานข้าวเช้า แล้วก็ไปรอขึ้นเครื่อง คราวนี้มีกั้นโซน Priority Boarding อีกแล้ว จากประสบการณ์ Cathay Pacific บางไฟล์ทก็กั้น บางไฟล์ทก็ไม่ ลูกผีลูกคน แต่ที่แน่ๆ คือกั้นไว้แต่ไม่ได้มีคนมาเฝ้าเหมือนที่สิงคโปร์ จะเข้ามานั่งรอต้องมุดที่กั้นผ่านเข้ามาเอง แล้วถ้าใครจะเนียนๆ มุดเข้ามาก็คงไม่มีใครรู้หรอก

IMG_0077.jpg
ที่นั่งรอ Priority Boarding
IMG_0079
เครื่อง A350-900 ทะเบียน B-LRL เริ่มใช้เมื่อกุมภาพันธ์ 2017

พอเข้าก็มาที่นี่นั่ง 31G เป็นที่นั่งตรงกลางริมทางเดินฝั่งขวา ที่นั่ง Premium Economy บนเครื่องนี้จัดเป็น 2-4-2 เพราะงั้นจำนวนที่นั่งต่อแถวก็จะมี 8 ที่น้อยกว่า Economy ที่จัดแบบ 3-3-3 รวม 9 ที่แค่ที่เดียว ซึ่งพอนั่งแล้วในแนวกว้างก็ไม่ได้รู้สึกว่ากว้างกว่า Economy อย่างมีนัยสำคัญขนาดนั้น

IMG_0083
ที่นั่ง Premium Economy
IMG_0081
อันนี้คือเคบินทั้งหมดของ Premium Economy ด้านข้างมี 4 แถว ตรงกลางมี 3 แถว รวมมี 28 ที่ (น้อยกว่า Business ที่มี 38 ที่อีก) แอบชอบตราข้างหลังที่มีไฟฉายลงมาด้วย สวยดี

ตรงที่นั่งด้านข้างจะมีโต๊ะทานข้าวพับเก็บไว้ข้างใน ดึงตั้งออกมาได้ ซึ่งจากที่ลองกางออกมาดูก็พบว่าแข็งแรงดีมาก (ดีกว่าที่นั่ง Business เครื่องเก่าๆ ด้วยซ้ำ)

แต่สิ่งที่ชอบที่สุดคือ ที่นั่งริมทางเดินเนี่ยสามารถที่จะพับเอาพนักที่มีโต๊ะทานข้าวอยู่เก็บลงไปได้ สามารถทำให้รู้สึกไม่อึดอัดได้ ซึ่งเป็นสิ่งที่เด็ดมาก! คือไม่เคยนั่ง Premium Economy เก่าของ CX เหมือนกันไม่รู้ว่าทำได้ไหม แต่จากประสบการณ์ที่เคยนั่ง Premium Economy บนเครื่อง 777-200 ของ JL มานี่แบบการเอาพนักลงได้นี่เป็นบุญมาก

IMG_0084
พนักด้านข้างมีโต๊ะทานข้าวพับเก็บไว้ข้างใน
IMG_0087
ถ้าอยากจะดันพนักลง ให้ถึงตะขอที่อยู่ใต้พนักด้านหน้าตรงนี้
IMG_0088
แล้วพนักก็จะดันเก็บไปข้างล่างได้แบบนี้ นั่งสบายขึ้นเยอะ

อีกด้านหนึ่งก็จะมีที่เก็บของขนาดพอดีสำหรับพวกกระเป๋าสตางค์กับมือถือฯ มีรูเสียบหูฟัง มีปุ่มดึงปรับที่นั่ง 3 จุดคือพนักด้านหลัง ที่รองขา แล้วก็ที่รองเท้า มีที่วางแก้วแบบดึงออกมาได้ และสุดท้ายคือรีโมทของทีวี

IMG_0090
พนักอีกด้าน มีที่เก็บของ รูหูฟัง ปุ่มปรับที่นั่ง ที่วางแก้วที่ดึงออกมาได้ แล้วก็รีโมตทีวี
IMG_0092
รีโมตทีวี เหมือนใน Economy ที่เคยนั่งเมื่อสิงหาคมปีที่แล้วเด๊ะๆ

ตัวทีวี Inflight Entertainment ก็เป็นระบบเดียวกับของ Economy แค่ไม่แน่ใจว่าจอใหญ่กว่านิดหนึ่งหรือเปล่า (ไม่แน่ใจจริงๆ) เป็นจอสัมผัสแบบ capacitive (ไม่ต้องใช้เล็บจิก) แล้วก็เป็นระบบใหม่ใช้ Android ด้านล่างมีที่วาง iPad แบบ Economy พร้อมที่เก็บของเพิ่มเป็นพิเศษ นอกเหนือจากกระเป๋าใส่นิตยสารข้างหน้า

IMG_0085
Inflight Entertainment System เหมือนของ Economy ด้านล่างดึงออกมาตั้ง iPad หรือวางของได้
IMG_0099
รอบนี้ไล่ดู Big Bang Theory กับ Bones
IMG_0086
หูฟังเป็นแบบตัดเสียงรบกวน แบบเดียวกับ Business Class แต่ใส่มาในซองพลาสติก ไม่เหมือนของ Business Class ที่ใช้เป็นเอากระดาษคาดไว้ ดูไฮโซกว่า

เนื่องจากว่ารอบนี้เป็นเที่ยวบินแรกหลังจากที่ได้ Qantas Platinum (oneworld Emerald) รอบนี้ก่อนเครื่องขึ้นเลยมีลูกเรือเดินมาสวัสดีที่ที่นั่ง แล้วก็เอา Evian มาให้ขวดนึงตามฟอร์ม (เห็นคนอื่นได้มานาน ได้เองกับเขาสักที ฮา…)

IMG_0095
เอวัง…

หลังจากนั้นก็เป็นขึ้นตอนนำเครื่องขึ้นตามปกติ จนกระทั่งเครื่องขึ้นได้สักประมาณ 40 นาที ลูกเรือก็เข็นอาหารมาเสิร์ฟ โดยที่อาหารดูจากลักษณะแล้วเหมือนของ Economy ทุกประการ ซึ่งก็ยังมีความรู้สึกเดิมๆ ว่ามันน้อยไปหน่อยนะ

IMG_0098
อาหารวันนี้ มีให้เลือกไก่กับหมู อันนี้เลือกหมู กับน้ำแอปเปิล โดยส่วนตัวรู้สึกว่าน้อยไปหน่อย (คือบิน Thai Smile ไป Siem Reap ยังจะรู้สึกว่าเยอะกว่านี้เลย)

พอทานเสร็จ กว่าเขาจะมาเก็บก็นานมาก เดาว่าน่าจะเพราะกว่าจะเสิร์ฟ Economy หมดทั้งแถว กว่าจะมาเก็บก็ปาเข้าไปสัก 40 นาทีสุดท้ายก่อนเครื่องลงแล้ว

พอเขาเก็บไป ก็เลยถือโอกาสลองเอนเบาะให้สุดๆ ดูว่าเป็นยังไง กับลองเอาที่รองขาขึ้น ปรากฎก็คือด้านหลังเอนได้เยอะมาก! น่าจะได้สัก 140 – 150 องศาเลย แต่พอดีไม่มีโอกาสถ่ายรูปเพราะเกรงใจคนข้างหลัง เอาแต่รูปข้างหน้าไปแล้วกัน ซึ่งตรงนี้แม้ว่าด้านกว้างจะไม่เยอะกว่า Economy มาก แต่ในด้านแนวตั้งมีที่ระหว่างที่นั่ง (seat pitch) เยอะกว่าอย่างมีนัยสำคัญเลย แต่ถึงกระนั้นถ้าเอาที่รองขาขึ้นสุดๆ จะไม่สามารถตั้งเท้าขึ้นมาได้ ดังภาพ

IMG_0097
สุดตีน

สรุปคือถ้าจะนอน ตัวยาวแบบเราไม่ต้องใช้ที่รองขาเนี่ยเวิคสุด สุดท้ายก็แอบลองเล่นไฟอ่านหนังสือที่อยู่บนตัวอีกสักหน่อย ก็ใช้งานได้ดีปกติไม่มีอะไร

IMG_0100
ไฟอ่านหนังสือ

สรุป

โดยรวมถือว่าชอบ และถ้านั่งไฟล์ทยาวๆ นี่ก็น่าจะสบายขึ้นเยอะ และถ้าราคาไม่ได้แพงกว่า Economy มากไป (สัก 150% ของ Economy นี่พอไหว) โดยส่วนตัวอย่างรูท BKK-SIN นี่ถ้า Premium Economy มีราคาอยู่ที่สักประมาณ 8,000 นี่ก็คงจะพอน่าสนใจอยู่ แต่ความประหลาดของรูท BKK-SIN ของ CX คือการที่มีโปร Business Class อยู่ที่ประมาณ 12,000 บาท ในขณะที่ Premium Economy จะไม่เคยมีโปรอะไร และราคาเริ่มต้นที่ประมาณ 13,000 บาท

 

Leave a Reply

Fill in your details below or click an icon to log in:

WordPress.com Logo

You are commenting using your WordPress.com account. Log Out /  Change )

Facebook photo

You are commenting using your Facebook account. Log Out /  Change )

Connecting to %s