เหมือนไม่ได้เขียนเรื่องเที่ยวนานมาก เพราะตั้งแต่โควิดมาก็ไม่ค่อยได้มีทริปเที่ยวจริงๆ จังๆ สักเท่าไหร่ มีคราวนี้ที่บังเอิญว่าจะได้ไปทำงานที่น่าน เลยชวนเพื่อนที่เคยไป Kumano Kodo ด้วยกันเมื่อตอนเดือนธันวาคมปีที่แล้วไป (ไม่ได้เขียนบล็อกเอง ถ้าสนใจไปอ่านบล็อกของเขาได้ที่นี่) ซึ่งด้วยความที่คนนี้เป็นสายลุยอยู่แล้ว ก็เลยจบได้ทริปนอนกางเต็นท์ยาวๆ 5 คืนมาแบบนี้

หลักๆ คือทริปนี้เราไปสามที่หลักๆ คือไปเริ่มที่ดอยเสมอดาว 2 คืน ถัดมาไปที่สะปันอีก 2 คืน ก่อนที่จะไปจบที่ที่ตอนแรกยังไม่ได้คิดว่าจะไปไหนอีก 1 คืน โดยเนื่องจากครั้งนี้ถ่ายวิดีโอและทำคลิปสั้นๆ อัปลงไอจีมาเรื่อยๆ เลยคิดว่าจะเล่าเรื่องหลักๆ ด้วยวิดีโอเนี่ยแหละ

ในวันแรกหลังจากเสร็จงานผมก็เหมารถไปที่ดอยเสมอดาวเพื่อเจอกับที่เหลือ โดยเราเช่าที่กางเต็นท์ และเอาเต็นท์มาเอง ซึ่งเป็นเต็นท์ที่นอนได้ 4 คนแบบพอดีเด๊ะ โดยวันทำอาหารที่ซื้อของมาไว้ล่วงหน้า

คืนนั้นมีเพิ่มเติมจากในวิดีโอว่าก่อนเข้านอนก็มีไปดูดาว ซึ่งปรากฎว่าที่นี่สมกับชื่อที่ว่าดอยเสมอดาวจริงๆ เพราะเห็นดาวชัดมาก และโชคดีที่วันที่เราไปฟ้าเปิดสุดๆ พร้อมกับเป็นช่วงที่มีฝนดาวตกพอดี เลยได้เห็นดาวตกพอสมควรเลย

พอวันรุ่งขึ้นก็ตื่นขึ้นมาแต่เช้า หนาวมาก! แล้วก็ไปดูพระอาทิตย์ขึ้น ก่อนที่จะทำอาหารเช้าทาน แล้วไปเที่ยวตรงผาหัวสิงห์ ทานมื้อกลางวัน แล้วก็กลับมาชิวที่เต็นท์ ก่อนจะวนลูปทำอาหารแล้วจบอีกหนึ่งคืน

ตื่นเช้ามาวันที่สองเราก็รีบเก็บของเพื่อย้ายไปที่สะปัน โดยมีความยุ่งยากนิดนึงว่าเนื่องจากทางที่จะต้องลงจากดอยเสมอดาวจะมีบางช่วงที่ชันมาก เลยต้องยังไม่ให้คนนั่งเพราะแค่ของก็หนักมาแล้ว คนต้องวิ่งตามรถกันไปเอง

โดยจุดกางเต็นท์ที่เราเลือกคือตรงวัดสะปัน ซึ่งก็จะมีความน่ากลัวหน่อยๆ ด้วยความที่เป็นวัด แต่ปรากฎว่าสุดท้ายคนไปกางกันเยอะมากเลยไม่น่ากลัว ฮา… โดยที่นี่วัดจะขอให้บริจาคเงินแค่เต็นท์ละ 200 บาทเท่านั้น

ซึ่งทีแรกเราก็ไม่แน่ใจว่าคนจะเยอะไหมเนื่องจากมันขึ้นวันจันทร์แล้ว คิดว่าคนจะกลับบ้านไป ปรากฎว่าพอไปถึงไม่ทันแย่งที่ดีๆ เลยตัดสินใจว่าจะกางที่แย่ๆ ที่เอียงมากไปก่อน ก่อนที่จะย้ายอีกทีในวันรุ่งขึ้น

พอเช้ามาที่สะปัน ปรากฎว่าอากาศที่นี่ไม่หนาวเท่าที่ดอยเสมอดาว แต่ว่าหมอกเยอะและชื้นมาก ทุกอย่างเปียกไปหมด โดยในวันแรกนี้เราก็ตื่นกันมาแบบชิวๆ ทำอาหารเช้า นั่งทำงานแบบ Work from Sapan โดยตอนกลางวันก็แวะลงไปหาอะไรทานในเมืองสะปันข้างล่าง

พอมาตอนเย็นวันนี้เราสั่งหมูกะทะจากในเมือง โดยเขาเอาขึ้นมาส่งให้พร้อมเตาเลยที่บนที่กางเต็นท์ ก่อนที่จะลงไปดูตรงถนนคนเดิน (ฟังดูใหญ่ แต่จริงๆ เล็กมาก) เพื่อหาอะไรทานเพิ่มเติมในเมืองข้างล่าง

ต่อมาเช้าวันนี้เราตัดสินใจจะไปวิ่งเล่นในเมืองตอนเช้า แล้วจบด้วยวิ่งไปดูน้ำตกสะปัน ก่อนที่จะขึ้นมานั่งทำงานและเย็นๆ ค่อยย้ายที่กางเต็นท์อีกรอบ

ซึ่งไอ้ที่กางเต็นท์อันสุดท้ายเนี่ยแหละที่เป็นประเด็น คือตอนแรกก็เข้าใจว่าจะไปเปิดโรงแรมในเมือง แล้วค่อยมาหาที่ดูดาวกัน เพราะว่าวันนี้จะเป็นวันที่ฝนดาวตกชุกที่สุด แต่ด้วยความที่ว่าคิดว่าจะไม่สะดวก ก็เลยตัดสินใจมาหาที่กางเต็นท์กันเอาวินาทีสุดท้ายที่คิดว่าอยู่ใกล้เมืองหน่อยเพื่อสะดวกเดินทางกลับ ในขณะเดียวกันก็น่าจะมืดพอที่จะดูดาว โดยจบไปได้ที่ที่ชื่อว่าห้วยขุนตาด ซึ่งเป็นที่ในไร่ข้าวโพด แต่เจ้าของเอาพื้นที่ส่วนหนึ่งที่เปิดเนินมาเปิดเป็นกระโจม โดยเพิ่งเปิดได้เดือนกว่าๆ บรรยากาศและวิวถือว่าดีมาก เก็บค่ากางเต็นท์ 300 บาทถ้วนต่อเต็นท์

คืนนั้นมีความพีคคือสุดท้ายได้ดูฝนดาวตก และเจอดาวตกที่ยาวสักสองคืบถ้ายืดสุดแขนได้ เป็นดาวตกที่ยาวและสว่างที่สุดเท่าที่เคยดูมาในชีวิตนี้ และไม่แน่ใจเลยว่าชีวิตนี้จะได้เจออีกมั้ย

จนตื่นมาตอนเช้า จริงๆ ถ้ากางเต็นท์เองจะไม่ได้มีอาหารเช้า แต่เจ้าของก็ใจดีให้เราทานด้วย ก่อนที่จะรีบออกมาเพื่อไปกินครัวซองต์ที่ร้าน Comla Bakery ก่อนที่จะแยกย้ายกันไป ผมก็ไปขึ้นเครื่องบินที่น่านกลับกรุงเทพ ส่วนที่เหลือขับรถกลับอยุธยากันไป

สรุปแล้วถือเป็นทริปที่ประทับใจมากอีกทริปหนึ่ง ใช้เงินน้อยมากกับการนอนเต็นท์ 5 คืน แล้วก็ค้นพบว่าเออเราก็อยู่ได้นะ ฮา… ตอนนี้เลยเริ่มรู้สึกสนุกขึ้นมาอยากไปนอนป่านอนเขาอีกแล้ว

Leave a comment