ทริปนี้เราเริ่มต้นด้วยการมาเจอกันที่สนามบิน Changi ที่สิงคโปร์ ก่อนที่จะขึ้นไฟลท์ SQ392 ต่อไปที่สนามบินอิสตันบูล และแค่เริ่มต้นก็มีเรื่องเกิดขึ้น เพราะมัวแต่ชิวกิน Burger King กันอยู่ เลยไปที่เกตค่อนข้างช้า และได้เจอป้ายหน้าเกตเปลี่ยนจากคำว่า Final Call เป็น Gate Closing ต่อหน้าต่อตา สิ่งที่เกิดขึ้นจึงเป็นดังวิดีโอนี้:
หลังจากนั้นก็ขึ้นเครื่องไป ระยะเวลาไฟลท์รวมทั้งหมดประมาณ 11 ชั่วโมง โดยจะเดินทางถึงอิสตันบูลในช่วงเช้าของวันถัดไปพอดี เวลาที่อิสตันบูลจะช้ากว่าประเทศไทย 4 ชั่วโมง (หรือก็คือช้ากว่าสิงคโปร์ 5 ชั่วโมง) สำหรับรายละเอียดเกี่ยวกับประสบการณ์บนไฟลท์ Singapore Airlines รูทนี้จะแยกไว้เป็นอีกโพสต์นึง
พอไปถึงสนามบิน รับกระเป๋าเรียบร้อยแล้วก็แอบโฉบดูพวกซิมการ์ดนิดนึง จึงขอแนะนำว่าอย่าซื้อซิมการ์ดที่สนามบิน มาหาซื้อในเมืองจะถูกกว่าเป็นครึ่งๆ ก่อนที่จะมาจุดนัดหมายกับรถที่เราจองไว้ โดยมีค่าบริการ 50 EUR สำหรับพวกเราทั้ง 4 คน (จั่นเจากับเพื่อนจั่นเจาจะตามมาอีกวัน เนื่องจากอยู่คนละมัลติเวิร์ส)
ในส่วนที่พักพวกเราก็พร้อมใจกันแลกแต้ม Marriott Bonvoy ที่ W Istanbul โดยสี่คนพักแยกกันสามห้อง โดยจองกันได้ตอนช่วงที่เรทจองประมาณ 90,000 แต้มสำหรับห้าคืน (คิดเป็นเงินประมาณ 18,000 บาท) โดยได้ใช้ Suite Night Award กดขออัปเกรดไว้ได้เป็นห้อง Fantastic Suite โดยรวมๆ เกี่ยวกับประสบการณ์โรงแรมจะแยกเป็นอีกโพสต์ทีหลัง
หลังจากฝากกระเป๋าไว้เรียบร้อย ก็เดินออกมาหาซิมการ์ดที่ร้านแถวๆ นี้ โดยจบได้ที่ราคา 400 TRY (ประมาณ 900 บาท) สำหรับ 20GB ก่อนที่จะเดินต่อไปยังเป้าหมายแรกที่เล็งกันไว้ คือร้านช็อกโกแลตและครัวซองต์ Mendel’s ที่ร้านจะมีเมนูเกี่ยวกับช็อกโกแลตเต็มไปหมด และยังมีครัวซองต์ทั้งแบบคาวและหวาน โดยส่วนตัวเนื่องจากเป็นคอสตรอเบอร์รี่ จึงเลือกสั่งสตรอเบอร์รี่ชุบช็อกโกแลต กับครัวซองต์ครีมสตรอเบอร์รี่ไป


สำหรับมื้อนี้ทานกันไปสามคน สั่งกันแบบจุกๆ อิ่มๆ รวมแล้วยังราคาแค่ประมาณเกือบ 900 บาทไทย เป็นประสบการณ์แรกที่ทำให้ทุกคนตื่นเต้นกับความถูกของร้านอาหารตุรกี!
หลังจากนั้นก็มาต่อกันที่กิจกรรมแรกที่เราจองกันผ่าน Airbnb Experience นั่นคือคลาสเรียนการเป่าแก้ว โดยที่สอนจะเป็นสตูดิโอเป่าแก้วเล็กๆ ในย่านติสๆ ในเมือง โดยนั่งแท็กซี่จากแถวโรงแรมไปไม่ไกลก็จะไปถึง
เราไปถึงกันก่อนเวลาเล็กน้อย พอถึงเวลาที่กำหนดคนสอนก็เริ่มอธิบาย จริงๆ แล้วคลาสนี้เขารับคนเรียนได้สูงสุด 3 คนเพราะทอร์ชพ่นไฟเค้ามีอยู่แค่นั้น แต่อันนี้เราขอเป็นกรณีพิเศษว่าจะมา 4 คน ก็เลยต้องสลับๆ กันบ้างเป็นช่วงๆ
โดยที่เค้าสอนให้เราดูว่าเราจะสามารถใช้เทคนิกการเป่าท่อแก้วให้กลายเป็นขวดออกมาได้ยังไง โดยหลักการใหญ่ๆ ก็คือเราต้องทำให้มันร้อนจนสามารถเปลี่ยนรูปได้ แล้วบิด ยืด งอ รวมถึงเป่าให้พองเป็นรูปแบบที่เราต้องการ โดยอาจจะต้องค่อยๆ แบ่งส่วนทำทีละจุดๆ เพราะเราสามารถควบคุมให้แก้วมันร้อนและเหลวเป็นจุดๆ ได้
สรุประยะเวลาประมาณ 2 ชั่วโมง เราได้ขวดแก้วเบี้ยวๆ กันมาคนละอัน พร้อมเครื่องรางอีกอย่างเล็กๆ ที่ทำง่ายกว่าโคตรๆ เพราะไม่ต้องเป่า



เสร็จจากคลาสเป่าแก้ว เราก็เดินกันไปอีกนิดจนถึงจุดที่มีถนนคนเดินมีร้านค้าต่างๆ เยอะแยะเต็มไปหมด ก่อนที่จะแวะทานข้าว แลกเงิน และไปซื้อเสื้อผ้ากันที่ Zara (เห็นเขาว่าถูก คนอื่นซื้อกันหมด แต่ฉันไม่ได้ซื้ออยู่คนเดียวเพราะหมดตัวไปกับ Under Armour Outlet ที่สิงคโปร์ไปแล้ว)


หลังจากนั้นเราก็กลับมาพักผ่อนกันที่โรงแรมสักพัก ก่อนที่จะออกมาอีกครั้งช่วงค่ำๆ มาเดินชมวิวแถวๆ ริมทะเล ก่อนที่จะไปหาอะไรทานกันแถวๆ ใกล้ๆ โรงแรม ทำให้ค้นพบเมนูมหัศจรรย์ที่เป็นหอยแมลงภู่ยัดข้าวอบตัวละ 3 TRY โดยที่นี่เรียกว่า Midye คือมันอร่อยมากจนวันหลังๆ ยังต้องกลับมาซ้ำกันอีก และถ้าให้จัดอันดับอาหารตุรกีที่ชอบที่สุดในทริปนี้ ก็คงเลือกไอ้หอยเนี่ยแหละ


ทานเสร็จ จ่ายเงิน หมดค่าเสียหายรวมทั้ง 4 คนประมาณ 500 กว่าบาท ตื่นเต้นตกใจกับราคาอาหารแสนถูกกันอีกรอบ ก่อนที่จะกลับไปแยกย้ายพักผ่อน จบการเดินทางวันที่ 1 โดยสมบูรณ์
One thought on “Istanbul Trip 2022 – Day 1”