มาถึงวันนี้ก็ยังคงเป็นวันที่ฝนตกทั้งวัน แต่ก็เลยวางแผนไว้แล้วว่าจะใช้เวลาหลักๆ ไปกับพิพิธภัณฑ์ โดยสองพิพิธภัณฑ์หลักที่ตั้งเป้าไว้วันนี้คือ Art Gallery of Western Australia กับ Western Australia Museum Boola Bardip โดยทั้งสองพิพิธภัณฑ์นี้อยู่ใกล้ๆ กันในโซนที่มีอะไรเทือกนี้รวมๆ กันอยู่เรียกว่า Perth Cultural Centre

สำหรับส่วนแรกจะเป็น Art Gallery of Western Australia ซึ่งมีนิทรรศการเปิดให้ดูอยู่พอสมควร แต่ส่วนใหญ่เกือบทั้งหมดจะเป็นเรื่องเกี่ยวกับพวกศิลปะของคนที่เป็นคนพื้นเมืองออสเตรเลียเดิมซึ่งสะท้อนถึงวิถีชีวิต ความเชื่อ และการดิ้นรนต่างๆ ทางการเมืองและวัฒนธรรม ซึ่งต้องบอกตรงๆ ว่าในฐานะเราไปดูก็อาจจะไม่อินหรือไม่เข้าใจประเด็นเท่าไหร่ แต่หลายๆ งานก็มีความน่าสนใจในเชิงศิลปะ เอาว่าขออนุญาตกราดๆ แปะรูปไปดังต่อไปนี้

นิทรรศการ Tracks We Share เป็นรวมงานศิลปะร่วมสมัยของศิลปินที่เป็นคนพื้นเมืองกลุ่มหนึ่งในพื้นที่ที่ชื่อ Pilbara

ต่อมาเป็นส่วนของ Balancing Act ซึ่งคราวนี้จะเป็นงานของกลุ่ม Aboriginal Australian รวมๆ ที่กระจายตัวอยู่ทั้งประเทศ

นิทรรศการ Collective Ground เป็นงานที่ชวนให้นึกถึงความสัมพันธ์ของเราที่มีกับสิ่งรอบตัว (หรือในทีนี้หมายถึงผืนแผ่นดินที่เราอาศัยอยู่) จากที่เราจำเป็นต้องไปไหนไม่ได้จากสถานการณ์โรคระบาด

หลังจากนั้นก่อนที่จะต่อที่ Western Australia Museum Boola Bardip ก็แวะรับประทานสิ่งที่น่าสนใจสักครู่

ชานมไต้หวันใส่โมจิ ไข่มุก น้ำตาลน้อย น้ำแข็งน้อย

ต่อมาพิพิธภัณฑ์ Western Australia Museum Boola Bardip คำว่า boola bardip แปลว่า many stories ในภาษา Whadjuk Nyoongar ซึ่งเป็นภาษาพื้นเมืองของพื้นที่ดั้งเดิมของ Perth เลยเป็นการสื่อถึงพิพิธภัณฑ์นี้ที่จะพูดถึงหลากหลายเรื่องราวแตกต่างกันไป

ตอนที่ไปรอบนี้เหมือนว่านิทรรศการที่เป็นไฮไลต์คือเรื่องไดโนเสาร์ แต่เนื่องจากไม่อินเลยไม่ได้ไปดู

ถัดมาเป็นนิทรรศการเล็กๆ ตรงทางเดิน รวมภาพถ่ายสวยๆ จากธรรมชาติใต้ท้องทะเล

หลังจากนั้นมาถึงนิทรรศการที่ชอบมากที่ชื่อ Reflections เป็นการเล่าถึงเรื่องราวประวัติศาสตร์ของ Western Australia ผ่านเรื่องราวเล็กๆ ของคนนั้นคนนี้ตลอดประวัติศาสตร์ที่ผ่านมาเรียงตามเวลา ที่เรื่องเล็กๆ ของแต่ละคนสะท้อนถึงเหตุการณ์ใหญ่ๆ ที่เกิดขึ้นในประวัติศาสตร์ยังไงบ้าง

จากนั้นเดินแว้บผ่านเห็นโครงกระดูกของวาฬ ซึ่งเป็นไฮไลต์ของนิทรรศการ Stan Perron WA Treasures ที่อยู่ด้านล่าง แต่ไม่ได้ลงไปดู

ต่อมาเป็นนิทรรศการ Innovations พูดถึงเรื่องนวัตกรรมต่างๆ และการคิดนวัตกรรมเหล่านั้น อันนี้จะสำหรับเด็กๆ หน่อยนึง

ต่อมานิทรรศการ Changes ว่าด้วยเรื่องการเปลี่ยนแปลงของสิ่งแวดล้อมที่เกิดจากมนุษย์ และเราจะเปลี่ยนแปลงการใช้ทรัพยากรอย่างไรให้ลดผลกระทบลงได้ อันนี้ไม่ได้ตั้งใจดูเลยเพราะสมาธิแตกแล้ว

หลังจากนั้นก็ตัดสินใจกลับไปโรงแรมนั่งทำงานต่อ (และมีสอนออนไลน์) ก่อนกลับแวะกินเบอร์เกอร์แพลนต์เบส (ซึ่งรู้สึกเป็นกระแสในออสเตรเลียพอสมควร ทุกร้านอาหารจะต้องมีเมนูแพลนต์เบส ขนาดบนเครื่องบินยังมี)

Leave a Reply

Fill in your details below or click an icon to log in:

WordPress.com Logo

You are commenting using your WordPress.com account. Log Out /  Change )

Twitter picture

You are commenting using your Twitter account. Log Out /  Change )

Facebook photo

You are commenting using your Facebook account. Log Out /  Change )

Connecting to %s