และแล้วเราก็มาถึงวันที่อากาศแจ่มใสอีกครั้ง วันนี้แผนการหลักๆ คือการไปพิพิธภัณฑ์เกมเก่า แล้วก็ไปเมืองท่า Frementle ที่อยู่ทางตะวันตกเฉียงใต้ของ Perth
เริ่มตอนเช้าแบบขี้เกียจหน่อยๆ เคลียร์งานอะไรนิดหน่อยรอให้ถึงเวลาเปิดพิพิธภัณฑ์ 11 โมง พิพิธภัณฑ์นี้ชื่อว่า Nostalgia Box เป็นของเอกชน ค่าเข้าประมาณ AUD 18 ถ้าจำไม่ผิด เป็นพิพิธภัณฑ์ที่รวมเอาเครื่องเกมและเกมเก่าๆ มาพร้อมกับประวัติของอุตสาหกรรมเกมต่างๆ โดยตั้งอยู่ทิศเหนือของ Perth Cultural Centre ไปอีกนิดนึง มีพื้นทาสีสวยๆ ระหว่างทาง



อย่างนี่ก็เพิ่งรู้ว่า Activision เป็นบริษัทเกมแรกที่ทำแต่ซอฟต์แวร์ ไม่มีเครื่องเกมของตัวเอง แถมไปทำบนเครื่องของ Atari โดยไม่ได้ขอเขาก่อนเคยเป็นคดีความกัน แต่สุดท้ายศาลก็ตัดสินว่า Activision สามารถทำเกมบนเครื่องคนอื่นได้






และนอกจากจะมีของวางโชว์ ยังมีเกมเก่าๆ มาวางไว้ให้ลองเล่นได้ด้วย ทั้งที่เป็นเครื่องเกมและตู้เกม (ว่าแต่มันจะมีจุดนึงที่โลกนี้จะไม่มีจอ CRT เหลือแล้วมั้ยนะ?)



หลังจากนั้นมื้อเที่ยงของเราก็เป็นชานม ครั้งนี้เลือกเป็นมัทฉะลาเต้ถั่วแดง ใส่โมจิ
หลังจากนั้นก็เตรียมตัวขึ้นรถไฟจากสถานี Perth ไป Frementle ซึ่งก็เกิดการฉุกละหุกนิดหน่อย เพราะลืมเอาหน้ากากออกมาจากห้อง แต่ว่ากฎที่นี่ตอนนี้เหลือบังคับใส่หน้ากากเฉพาะบนขนส่งสาธารณะ เลยต้องเดินกลับไปโรงแรมเพื่อไปเอาหน้ากากก่อนแล้วค่อยกลับมาอีกที
สำหรับค่ารถไฟที่นี่คิดเป็นโซน ถ้าเดินทางข้ามโซนก็คิดเที่ยวละ AUD 5 แต่ถ้าซื้อตั๋ววันก็ AUD 10 ก็เลยซื้อแบบวันมาเลย ไปกลับใช้ใบเดิม เผื่อเกิดอยากไปไหนอีก (แต่สุดท้ายก็ไม่ได้ไปอะนะ) โดยใช้เวลาประมาณ 30 นาทีก็ถึง โดยในภาพภาพแรกเป็นสถานี Perth ส่วนสองภาพหลังเป็นหน้าสถานี Frementle



ซึ่งช่วงที่มานี้เป็นช่วงที่เขากำลังมีเทศกาล 10 Nights in Port พอดี โดยในแต่ละวันมันก็จะมีกิจกรรมต่างๆ ให้ดูให้เล่น ซึ่งก็ต้องยอมรับว่าวางแผนมาไม่ดี เพราะพอมาดูหลายๆ อย่างที่อยากดูและฟรีดันไม่อยู่ในวันที่มา และในวันที่มาก็ดันแพลนเวลาพลาดไปหน่อยไปไม่ทันนิทรรศการศิลปะอันนึง
เวลาเกือบทั้งหมดเลยใช้ไปกับทัวร์แบบเสียงออนไลน์ Envoy 2222 หลักๆ ก็คือเขาจะกำหนดเส้นทางให้เราเดิน 4 เส้นทางในเมือง แล้วจะมีเป็นเสียงให้เปิดจากในเน็ตที่จะอธิบายว่าที่เราเดินไปเจอเป็นอะไรยังไงบ้าง แต่โครงเรื่องจะทำเป็นเหมือนกับว่าเราเป็นนักท่องเที่ยวจากโลกอนาคตที่ข้ามกาลเวลามาจากปี 2222 หรือก็คือ 200 ปีข้างหน้า โดยรวมก็ถือว่าน่าสนใจดี
เนื่องจากไม่รู้จะอธิบายยังไงมากกว่านี้ เพราะควรจะต้องไปฟังเอง ขอเอารูปมาอัดๆ ไปเลยแล้วกัน












หลังจากนั้นก็แวะไปที่ Western Australian Shipwrecks Museum เป็นพิพิธภัณฑ์รวมเรื่องราวที่เกี่ยวกับเรือล่ม และซากเรือหรือข้าวของต่างๆ ที่สามารถกู้มาได้ มีการพูดถึงขั้นตอนในการสืบเสาะหาว่าเรือที่ค้นพบเป็นเรืออะไรจากปีไหน จากหลักฐานทางประวัติศาสตร์ต่างๆ เท่าที่จะเก็บกู้ได้ รวมถึงสาเหตุทีทำให้เรือล่ม (เช่น มีกรณีที่เจอกระจกละลายเปลี่ยนรูป จึงเดาได้ว่าน่าจะมีไฟไหม้บนเรือก่อนล่ม เป็นต้น)









นอกจากนี้ที่นี่ตอนที่ไปยังบังเอิญมีนิทรรศการหมุนเวียนเป็นโซนแสดงภาพสีน้ำ จากสมาชิกของ The Watercolour Society of Western Australia (เขามีสมาคมอะไรแบบนี้ด้วยเนอะ)



ก่อนตะวันตกดิน หิวเลยไปหาอะไรทาน ได้เป็นชาเขียวชีส กับคุกกี้หวานตัดขา



หลังจากนั้นก็เดินรอบๆ ถ่ายรูปเล่นอีกเล็กน้อย ก่อนที่จะกลับไปที่สถานีตอนช่วงพระอาทิตย์ตกดินพอดี แล้วก็นั่งรถไฟกลับ Perth เป็นอันจบวันที่ 4 ของทริป



