สืบเนื่องจากการที่มีตั๋วเก่าของการบินไทยตั้งแต่ก่อนโควิดมากมาย หนึ่งในนั้นคือตั๋วที่จองตอนช่วงโปรโมชั่นไมล์สามเท่า ซึ่งจองเส้นทางไว้เป็น MEL-BKK-NRT และเนื่องจากทางการบินไทยบอกไว้ว่าจะได้ไมล์สามเท่าก็ต่อเมื่อบินภายในปี 2022 จึงถือว่าเป็นตั๋วใบสำคัญที่ต้องรีบๆ เคลียร์บินให้จบก่อน แต่เพราะว่าเดิมยังมีตั๋วแลกไมล์เหลืออีกหนึ่งขาเป็น BKK-SYD ตั๋วใบนี้ตอนลงวันเลยขอเป็นเริ่มต้นทางที่ SYD แทน ซึ่งทางการบินไทยก็ยอม
แต่เนื่องจากจนใกล้วันที่ต้องบินมากๆ แล้ว ก็ไม่มีตั๋วแลกไมล์ในช่วงเดียวกันนี้ว่าง เลยตัดสินใจจองตั๋วของ Qantas เส้นทาง BKK-SIN-PER-SYD แทน แล้วถือโอกาสนี้เที่ยว Perth ไปด้วยกันเลยทีเดียว
สำหรับตั๋วนี้เส้นทาง BKK-SIN จะบินด้วย Jetstar Asia (3K) ส่วนสองเส้นทางที่เหลือ SIN-PER และ PER-SYD เป็น Qantas (QF) และด้วยตั๋วจองไว้แบบ Flexible และเห็นว่าขา PER-SYD บินด้วยเครื่อง A330 เลยตัดสินใจว่าจะใช้ Qantas Point ขออัปเกรดเป็นชั้นธุรกิจ (ถ้าตั๋วเป็น Flexible คะแนนที่ใช้จะน้อยกว่า) โดยใช้ทั้งหมด 17,900 คะแนน (โดยส่วนตัวให้ค่า Qantas Point ประมาณ 0.20 บาทต่อแต้ม เพราะงั้นสรุปถ้าคิดเป็นเงินคือประมาณ 3,580 บาท)
ระบบการขออัปเกรดของ Qantas ทำได้ง่ายมาก คือกดขอในแอปได้เลยง่ายๆ แล้วระบบจะคอนเฟิร์มให้ตามที่ว่างที่มี โดยยิ่งอยู่สถานะสูงกว่าจะได้เคลียร์ก่อน (รวมถึงแปลว่ามีโอกาสมากกว่า) ตามนี้
- Platinum One เคลียร์ให้ 7 วันก่อนสำหรับเที่ยวบินระหว่างประเทศ หรือ 3 วันสำหรับในประเทศ
- Platinum (อยู่ระดับนี้) เคลียร์ให้ 3 วันก่อนเที่ยวบิน
- Gold, Silver, Bronze เคลียร์ให้ 1 วันก่อนเที่ยวบิน
ตอนแรกก็ลุ้นๆ อยู่เหมือนกันว่าจะได้ไหม แต่สุดท้ายก็ได้ SMS มาบอกว่าได้อัปเกรด พร้อมกับโดนหัก 17,900 คะแนนไปทันที โชคดีว่าตอนที่ได้อัปเกรดมาแล้วที่นั่งริมหน้าต่างยังมีว่าง เลยรีบกดจองในแอป ได้ที่นั่งเป็น 4K
สิ่งนึงที่น่าสนใจคือระบบยอมให้เช็คอินออนไลน์และออก boarding pass มาให้เลย ปกติถ้าเป็นคนไทยระบบน่าจะไม่ยอมออกและขอเช็ควีซ่าที่เคาน์เตอร์ก่อน เลยเดาว่าระบบของ Qantas อาจจะเชื่อมกับ ตม. ของออสเตรเลียแล้วมั้ง (เดา)
และโอกาสนี้เลยได้กลับมาเยี่ยมเยียน Qantas First Class Lounge ที่ SIN อีกรอบ ตอนแรกนึกว่าเคยรีวิวเลานจ์นี้ไว้แล้วเลยไม่ได้ตั้งใจถ่ายรูปมาเยอะ แต่พอมาเขียนบล็อกเลยเพิ่งสังเกตว่าเคยรีวิวไว้แต่เลานจ์ Business เอาเป็นว่าติดไว้ก่อนไว้ค่อยมารีวิวอีกที (มีบิน Jetstar ออกจาก SIN อีกทีเร็วๆ นี้)
สรุปให้เร็วๆ ไฮไลต์ของเลานจ์นี้คือห้องอาหารแบบสั่งจากเมนูแล้วมาเสิร์ฟ กับห้องอาบน้ำที่มีแสงอาทิตย์จำลอง พร้อมเปลี่ยนสีตามช่วงเวลาของวันได้
อีกอย่างที่ประทับใจคือ พอมันดีเลย์แล้วก็มีขึ้นเตือนบนแอป แล้วข้อมูลในแอปก็อัปเดทตลอดเวลา ถือว่าเป็นแอปที่มีประโยชน์และใช้ความเป็นแอปให้เกิดประโยชน์ได้จริง ไม่เหมือนแอปสายการบินสีม่วงย่านสุวรรณภูมิที่แอปไม่มีคุณสมบัติใดๆ ที่เหนือกว่าเว็บเลย
ตัดภาพมาบนเครื่องเลย เครื่อง A330 ที่นั่งชั้นธุรกิจเป็นแบบ 1-2-1 สลับฟันปลา ข้อสังเกตนึงคือที่นั่งสองที่ตรงกลางจะสลับซ้ายขวาเหมือนกันในแถวเดียวกัน กล่าวคือจะไม่มีที่นั่งไหนติดกันเลย ไม่เหมือนอย่างของการบินไทยที่จะสลับให้บางแถวเป็นที่นั่งติดกัน สำหรับคนที่เดินทางด้วยกันสองคน
นอกนั้นก็มีสิ่งที่ที่นั่งชั้นธุรกิจสมัยใหม่ควรจะมี สามารถเอนนอนราบได้ มีที่ชาร์จ ชุดอำนวยความสะดวก (amenity kit) เป็นลายครบรอบ 100 ปี (มีหลายแบบตามช่วงเวลาต่างๆ ของ Qantas อย่างของที่ได้มาเขียนไว้ว่าเป็นลายประจำทศวรรษ 1960s)
ที่แปลกใจคือมีเมนูอาหารเป็นกระดาษแล้ว หลังจากที่สายการบินส่วนใหญ่ช่วงนี้ยังอ้างโควิดแล้วเลิกทำเมนูกระดาษไปแล้ว มาดูเมนูกัน
โดยก่อนเครื่องขึ้นมีพนักงานมาถามก่อนว่าอยากทานอะไร ซึ่งที่นี่เดินไล่ถามตามที่นั่งเลย ไม่เหมือนการบินไทยที่มักจะถามผู้โดยสารที่เป็น Platinum หรือ Gold ก่อน
โดยในวันนี้เลือกเมนูแบบแพลนต์เบส เพราะว่าอิ่มจากเลานจ์มาพอสมควร ส่วนของหวานที่อยากทานหมด เลยต้องทานไอติมแทน
ซึ่งถ้าให้วิจารณ์เร็วๆ ก็รู้สึกว่าเป็นชั้นธุรกิจที่กากเมื่อเทียบกับที่เคยนั่งมาอย่าง TG, CX, JL, SQ, EK แต่ก็ไม่แน่ใจว่าควรจะเทียบได้จริงๆ มั้ยเพราะ Qantas เองก็ไม่ใช่สายการบินห้าดาว ซึ่งเอาเข้าจริงๆ ถ้าให้เปรียบเทียบเร็วๆ ก็คิดว่าคุณภาพประมาณ Malaysia Airlines แล้วกัน
แต่ถือว่าได้นั่งสบายๆ ห้าชั่วโมงไป Perth ก็ถือว่าโอเคแล้วคุ้ม 17,900 คะแนน (เทียบว่าตั๋ว BKK-SIN-PER-SYD รอบนี้ได้ 10,500 คะแนน) แต่ถ้าต้องจ่ายเงินเองก็คงไม่เอา (ไม่เหมือน CX, SQ ที่บางทีรู้สึกจ่ายเงินอาจจะคุ้ม)
ปล. สุดท้าย ตอนนี้บน Qantas มี Dexter: New Blood เป็นมินิซีรีส์ความยาว 10 ตอนที่เป็นเรื่องต่อจาก Dexter เดิมเมื่อสิบปีที่แล้ว ปรากฎบนเครื่องมีแค่ 8 ตอน ตอนนี้เลยมาวุ่นวายหาเนี่ยว่าจะหาดูอีก 2 ตอนที่เหลือได้ที่ไหน อีห่าราก
Zerothman 