มาถึงวันนี้ในตอนเช้าก็ไม่สามารถออกไปวิ่งได้เหมือนเดิม จำเป็นต้องมาวิ่งในยิม ก่อนที่จะทานข้าว อาบน้ำ แล้วออกไป Letterpress Workshop ที่จองไว้ผ่าน Airbnb Experience ที่แถว Charlestown


สำหรับเวิร์กช็อปนี้เป็นสตูดิโอที่เขารับทำงานพิมพ์แบบ Letterpress จริงๆ ซึ่งเขาบอกว่าปัจจุบันยังมีตลาดอยู่ แต่จะเป็นตลาดพรีเมี่ยมที่อยากได้การ์ดหรืองานที่ดูหรูหรากว่าเพราะการพิมพ์แบบนี้ถ้าทำในกระดาษหนาๆ จะทำให้ตัวอักษรบุ๋มลงไปและทำให้ดูเป็นของแพงได้กว่าการพิมพ์แบบออฟเซต
โดยเวิร์กช็อปนี้เขาก็ใช้เวลาเยอะมากในช่วงแรกเพื่อเล่าให้ฟังถึงประวัติศาสตร์การพิมพ์ต่างๆ ก่อนที่จะเริ่มสอนเทคนิกในการค่อยๆ วางตัวอักษรลงในแม่พิมพ์ อันนี้เลยเป็นความรู้ใหม่ว่าทำไมตัวอักษรเล็กใหญ่ในภาษาอังกฤษเราเรียกว่า uppercase หรือ lowercase
เพราะว่าเมื่อก่อนการพิมพ์จะต้องเอาตัวพิมพ์ตัวอักษรแต่ละตัวมาเรียงๆ กันเพื่อทำแม่พิมพ์ แล้วพิมพ์ตัวอักษรพวกนี้จะใส่ไว้ในถาด ซึ่งเมื่อก่อนตัวอักษรเล็กกับใหญ่จะแยกกันไว้คนละถาด ตัวใหญ่อยู่ถาดบน ตัวเล็กอยู่ถาดล่าง เลยถูกเรียกว่าเป็น uppercase กับ lowercase
สำหรับถาดปัจจุบันที่เขาให้ดูเป็นถาดที่ออกแบบมาให้แบ่งตำแหน่งและขนาดตามความถี่ของตัวอักษรแต่ละตัวที่จะได้ใช้ในภาษาอังกฤษตามในรูปนี้ ส่วนวิธีการเรียงอักษรเราจะเรียงจากซ้ายไปขวาเหมือนการพิมพ์จริงๆ เพราะจะได้เรียงง่าย แต่ใช้วิธีว่าเรียงบรรทัดแรกอยู่ข้างล่าง บรรทัดถัดมาอยู่ข้างบนไปเรื่อยๆ โดยตัวพิมพ์จะมีรอยบากไว้ให้เรารู้ว่าตอนเรียงต้องเอาบากไว้ข้างบน ก็จะไม่งงและทำได้ง่าย








และหลังจากที่เราเรียงแม่พิมพ์เสร็จแล้ว เราก็ต้องเอามาวางในแม่พิมพ์ แล้วก็เอากระดาษมาติด ก่อนที่จะหมุนไป โดยกลไกมันจะเอาสีไปป้ายลงที่แม่พิมพ์ แล้วม้วนกระดาษไปทาบ
หลังจากนั้นวันนี้เป็นวันเสาร์ ก็บังเอิญว่ามีงาน Open Streets Boston พอดีที่ถนน Dorchester Avenue โดยลักษณะเป็นเหมือนงานของเมืองที่ปิดถนนให้ธุรกิจเล็กๆ หรือองค์กรต่างๆ มาตั้งบูธออกงานขายของหรือประชาสัมพันธ์งานของตัวเองได้
ซึ่งตัวถนนนี่มันยาวมาก และงานก็ค่อนข้างกระจายๆ กันไปไม่ได้แน่น แบบแต่ละบูธก็จะกระจายๆ ไปตลอดแนวถนน แต่ก่อนจะเดินพักดูดสิ่งที่น่าสนใจสักครู่
โอเคเดินดูงานได้












ซึ่งใช้เวลาเดินผ่านดูเร็วๆ ไม่ได้แวะตรงไหนน่าจะสักครึ่งชั่วโมงได้ โดยเดินมาตั้งแต่สถานี Fields Corner มาจนถึงสถานี Ashmont ก็ขึ้นรถไฟกลับโรงแรมต่อได้ทันที
ที่สถานีมีรูปถ่ายไว้ด้วย เลยทำให้รู้ว่ารถไฟสายนี้เก่ากว่าที่คิด โดยสถานีนี้อยู่มาตั้งแต่ปี 1928 เลยทีเดียว
พอกลับมาถึงตรง Boston Common ตอนเดินกลับโรงแรมก็เจอคนมาประท้วงให้เจรจาสันติภาพกับรัสเซีย
กลับถึงโรงแรมประมาณบ่ายสอง ก็เป็นอันจบอีกวันหนึ่งที่ Boston