Nan Trip 2020

Nan Trip 2020

เหมือนไม่ได้เขียนเรื่องเที่ยวนานมาก เพราะตั้งแต่โควิดมาก็ไม่ค่อยได้มีทริปเที่ยวจริงๆ จังๆ สักเท่าไหร่ มีคราวนี้ที่บังเอิญว่าจะได้ไปทำงานที่น่าน เลยชวนเพื่อนที่เคยไป Kumano Kodo ด้วยกันเมื่อตอนเดือนธันวาคมปีที่แล้วไป (ไม่ได้เขียนบล็อกเอง ถ้าสนใจไปอ่านบล็อกของเขาได้ที่นี่) ซึ่งด้วยความที่คนนี้เป็นสายลุยอยู่แล้ว ก็เลยจบได้ทริปนอนกางเต็นท์ยาวๆ 5 คืนมาแบบนี้

Continue reading “Nan Trip 2020”

JP/US 2014 – Day 19

วันนี้หลังจากที่แหกขี้ตาตื่นขึ้นมาได้แล้ว ก็ตัดสินใจว่าจะไปเดิน Trails ริมผา Grand Canyon กัน โดยทางที่ไปก็จะเป็นทางที่ค่อนข้างง่ายมาก ไม่ได้มีการปีนปายอะไร เดินชมวิวเฉยๆ แต่ระยะทางรวมๆ แล้วก็เยอะพอสมควร ระหว่างทางที่เดินเจอคนไทยด้วย

ระหว่างทางก็จะมีจุดที่เป็นนิทรรศการแสดงอธิบายการเกิด Grand Canyon ตามหลักธรณีวิทยาต่างๆ ที่บอกตามตรงว่าอ่านไม่ค่อยเข้าใจเสียเลย รู้แต่ว่าที่เป็นเหวลงไปหลักๆ เกิดจากแม่น้ำ Colorado ที่ค่อยๆ กัดเซาะหินลงไปเรื่อยๆ จนกลายเป็นผา โดยปัจจัยที่ช่วยให้น้ำเจาะชั้นหินลงไปได้เร็วคือแรงโน้มถ่วงกับสภาพอากาศที่เย็นจนน้ำจะเป็นน้ำแข็งได้ในบางเวลา และเกิดการขยายตัวเซาะหินลงไป

นอกจากนี้ระหว่างทางเดิน เขายังทำเป็นเหมือนให้เราเดินย้อนเวลาไปเรื่อยๆ มีจุดแปะที่พื้นว่าถึงกี่ร้อยกี่ล้านปีก่อนหน้านี้แล้ว สักพักก็จะมีตัวอย่างที่ตัดมาจากชั้นหินในช่วงอายุเท่านั้นๆ ให้ดูเล่นจับเล่นได้

IMG_8188

IMG_8190

ในวันนี้มื้อเย็นเราเกิดขี้เกียจทำอาหารขึ้นมา เลยตัดสินใจไปกินคาเฟทีเรียใกล้ๆ แคมป์กราวด์แทน มีสลัดชั่งออนซ์สะใจราคาถูกมาก

IMG_8192

หลังจากนั้นเราก็พบกับเรื่องที่น่าตื่นเต้นระทึกใจ เรื่องมีอยู่ว่าหลังจากที่เราเดินทางออกจาก Salt Lake City มาเมือง Page จนถึง Grand Canyon ก็พบว่ามือถือของเราไม่มีสัญญาณเลย จึงทำให้ถูกตัดขาดจากโลกภายนอก ไม่สามารถเข้าถึงอินเทอร์เน็ตได้ ทีนี้เป้าหมายต่อไปของเราหลังจากนี้คือ Las Vegas เราพักกับโฮสต์จาก Airbnb เจ้าหนึ่ง ที่ปรากฎว่าเขาติดต่อเราไม่ได้ แล้วเลยยกเลิกการจองไป แล้วเราก็เพิ่งมารู้ตอนเย็นที่สามารถใช้เน็ตได้ที่ร้านอาหาร เลยเกิดความวุ่นวายที่จะต้องพยายามติดต่อโฮสต์ Airbnb คนอื่นๆ เพื่อหาที่พักแทน (ซึ่งจริงๆ ก็มีข้อดีเพราะพอโดนยกเลิกเราเลยได้โบนัสเพิ่มอีกประมาณ 20 กว่ายูโรเพื่อใช้ในการจองที่ที่แพงขึ้นได้)

สุดท้ายในวันนี้เราก็ยังไม่สามารถหาโฮสต์ใหม่ได้ แม้จะอยู่ที่ร้านจนปิดสองทุ่ม จึงเหลือทางเลือกเดียวว่าพรุ่งนี้จะต้องไปลุ้นกันต่อ

พอกลับมาที่แคมป์กราวน์ เปลี่ยนเสื้อผ้าเตรียมนอน เปิด Dexter ดูสองสามตอน แล้วก็เตรียมเข้านอน วันนี้ผมตัดสินใจว่าจะไปนอนข้างหน้าบ้างแล้ว เพราะคิดว่าพออยู่ข้างหลังแล้วมีพื้นที่กระจกเยอะกว่าที่ความเย็นทะลุเข้ามาได้เยอะ ถ้าเป็นที่นั่งคนขับตรงขายังซุกอยู่ข้างล่าง ก็ค้นพบว่าสามารถนอนหลับได้สบายขึ้น แต่ยังคงต้องเปิดฮีตเตอร์ตอนดึกๆ อยู่ดี

หมายเหตุ: โพสท์นี้เป็นโพสท์ย้อนหลัง

JP/US 2014 – Day 18

วันนี้กำหนดการของเราคือการเดินทางต่อไปยัง Grand Canyon โดยมีแผนที่จะค้างคืนที่ Grand Canyon 2 คืน ซึ่งจะมีข้อจำกัดในการใช้ชีวิตเพิ่มขึ้นอีก การพักแคมป์กราวน์ที่เมือง Page เมื่อคืนเลยเป็นเหมือนแบบฝึกขั้นต้นให้รู้ว่าปัญหาจะมีอะไรบ้าง แล้วจะแก้ยังไง

ปัญหาใหญ่ที่เจอคือเรื่องของอากาศหนาว ก่อนออกจากเมือง Page เราจึงตัดสินใจใช้เงินแก้ปัญหาซื้อถุงนอนกันมาอีกคนละใบ
หลังจากนั้นเราก็ขับรถอีกนานพอสมควรกว่าจะมาถึง Grand Canyon โดยมีเป้าหมายที่จะพักที่ Mather Campground โดยก่อนถึงเราแวะที่ Desert View Watch Tower ก่อนด้วย

IMG_8141

IMG_8134

จนพอมาถึงที่แคมป์กราวน์ก็เกือบมืดแล้ว ก็เลยรีบทำอาหารโดยเมนูเป็นเบคอนทอดให้อ้วนตายกันไปข้างหนึ่ง ครั้งนี้เรายังมีการอัปเกรดสกิลโดยมีการจุดไฟเพิ่มขึ้นด้วย แล้วก็ปิ้งมาร์ชเมลโลวกินกันเพื่อเพิ่มความอ้วนขึ้นไปอีก โดยวันนี้ผมยังคงนอนด้านหลังเหมือนเดิม แต่เพิ่มมีถุงนอนขึ้นมา

IMG_8151

IMG_8154

หลังจากนอนไปได้สักพัก ก็ต้องตื่นขึ้นมาอีก เพราะพบว่าถุงนอนเอาไม่อยู่! เหตุนึงน่าจะเป็นเพราะ Grand Canyon ก็ยิ่งหนาวขึ้นกว่าที่ Page เพราะสูงกว่ามากด้วย สุดท้ายพอถึงจุดหนึ่งก็ต้องเปิดฮีตเตอร์อีกอยู่ดีเหมือนเดิม จึงจะผ่านพ้นคืนที่เหน็บหนาวไปได้

หมายเหตุ: โพสท์นี้เป็นโพสท์ย้อนหลัง

JP/US 2014 – Day 17

วันนี้ความตื่นเต้นที่สุดเริ่มต้นตั้งแต่ตอนที่เรายังไม่ตื่น เมื่ออยู่ๆ เราก็ได้ยินเสียงเตียงขย่มจากข้างบน ขุ่นพระ ไม่คิดว่าจะได้เจอเรื่องแบบนี้กับตัว วันนี้เลยกลายเป็นว่าได้ตื่นเช้าโดยไม่ตั้งใจ

กำหนดการในวันนี้เราจะต้องเดินทางไปพักที่แคมป์กราวนด์ที่เมือง Page รัฐ Arizona ซึ่งต้องใช้เวลาเดินทางประมาณ 6 – 8 ชั่วโมง ซึ่งจะถือว่าเป็นการพักแคมป์ปิ้งครั้งแรกในทริปครั้งนี้ ในวันนี้เราจึงต้องใช้เวลาในการเตรียมการหลายๆ อย่างด้วยเหมือนกัน

ซึ่งด้วยความมักง่ายของเรา เราก็เลยกะว่าจะไปตายเอาดาบหน้า ทุกอย่างไปซื้อเอาที่เมือง Page แล้วกัน ระหว่างทางก็ถ่ายรูปเล็กน้อย

IMG_8090

ปรากฎว่ากว่าเราจะเดินทางไปถึงก็ค่อนข้างเย็นแล้ว การทำเควสหาของต่างๆ ของเราจึงต้องเป็นการแข่งกับเวลาอย่างยิ่งยวด เริ่มจากปัญหาใหญ่อย่างแรกคือเราพยายามจะหากระป๋องแก็ส Butane เพื่อใช้กับเตากระป๋องที่เราอุตสาห์ขนไปด้วย ตอนแรกไปดูที่ Safeway ปรากฎว่าไม่มี เลยคิดว่าไปดู Walmart แล้วกันเผื่อมี เราก็ต้องขับรถไปอีกประมาณ 3 ไมล์ พอไปถึง Walmart ก็พบว่ามีป้ายราคา แต่ที่ชั้นวางไม่มีของ ก็ต้องตามหาพนักงานมาให้ช่วยเช็คสต็อก พอพบว่าไม่มี พนักงานก็แนะนำให้ไปร้านขายของชำที่อยู่ใกล้ๆ Safeway อีกร้านหนึ่ง พอถึงตอนนี้เราเริ่มรู้ตัวว่าเวลาเหลือน้อยเต็มที เพราะห้างปิด 2 ทุ่ม เราจึงต้องรีบออกตัวด้วยความเร็วระดับ Initial D เหาะกลับไปแถว Safeway เพื่อไปร้านที่พนักงานแนะนำมา ปรากฏอ้าวห่าราก ร้านปิดไปแล้วตั้งแต่หกโมง เอาวะ ยอมซื้อ Propane กฤษษี่สไตล์แล้วก็ได้ เลยเดินไป Safeway เพื่อจะไปซื้อ ปรากฏว่าอ้าวเหี้ยหัวเตาหมดอีก เราจึงต้องรีบออกตัวระดับ Initial D กลับไป Walmart อีกรอบเพื่อซื้อเตา

พอได้อุปกรณ์และวัตถุดิบต่างๆ ครบถ้วนสมบูรณ์แล้ว เราก็รีบไปเช็คอินที่แคมป์กราวด์ แล้วก็เริ่มทำอาหาร ซึ่งกว่าจะได้เริ่มทำก็มืดเสียแล้ว และที่สำคัญ ลมแรงมาก! เลยต้องทอดหมูสู้ลมกันอยู่อย่างนั้นแบบจะตาย ใช้เวลาประมาณ 20 นาที เราก็ได้มื้อเย็นของเรา

IMG_8111

IMG_8118

พอถึงตอนนั้น เราก็เหนื่อยเกินกว่าจะทำห่าอะไรต่ออีกแล้ว ก็ตัดสินใจว่าจะนอนเลย ก็เลยไปอาบน้ำแต่งตัวเรียบร้อยเตรียมนอน
แผนการนอนของเราก็คือ เราจะไม่ใช้เต็นท์ แต่จะนอนในรถเอาเลยเพราะมีแค่สองคนโดยที่ตั้มนอนที่ที่นั่งข้างคนขับปกติ แต่ผมย้ายกระเป๋าไปข้างหน้าแล้วนอนราบที่ด้านหลังแทน ค้นพบความเก๋ไก๋อย่างนึงของ Prius (หรือรถ Hatchback ทรงยาวใดๆ) คือถ้าปรับเบาะด้านหลังพับลงมาให้นอนยาวได้ แล้วนอนหันหัวไปทางด้านหลัง ก็จะสามารถนอนดูดาวได้อย่างกิ๊บเก๋ยูเรก้า โรแมนติกซะไม่มี ถ้ามากับแฟนจะเก๋มาก

หลังจากนั้นก็เผลอหลับไป แต่สุดท้ายก็ต้องตื่นขึ้นมากลางดึก และพบว่าหนาวมาก! หนาวเกินกว่าที่ทีแรกคิดว่าจะใช้ชุดกันหนาวอย่างเดียวพอได้ สุดท้ายเลยจำใจต้องเผาน้ำมันมากลายเป็นความร้อนโดยการเปิดเครื่องยนต์แล้วก็เปิดฮีตเตอร์โดยแง้มกระจกไว้นิดนึงกันตาย พบว่าเอาเข้าจริงๆ ก็ไม่เปลืองน้ำมันเท่าไหร่ คงเพราะเป็นรถไฮบริดด้วย เวลาที่อุณภูมิโอเคแล้วรถก็จะดับไปเอง พอจะต้องปั่นความร้อนใหม่เครื่องยนต์ก็ติดใหม่เอง ใช้ได้ๆ

และเราก็ผ่านพ้นความเหน็บหนาวไปได้อีกหนึ่งวัน

หมายเหตุ: โพสท์นี้เป็นโพสท์ย้อนหลัง