มาถึงวันที่ 12 แล้ว ในวันนี้ก็ถือเป็นวันสุดท้ายที่จะอยู่แถว Utah แล้วก็จะขึ้นเครื่องบินกลับไป Los Angeles ตอนเช้ามาก็เก็บของเตรียมจะออก จนประมาณสัก 9 โมงก็ไปเข้าเฝ้าเสด็จตั้มในห้องบรรทมเพื่อกราบทูลลา (แม่งยังไม่ตื่น) หลังจากเก็บของขับรถออกมา เราก็โฉบแวะไปที่วัด LDS (ธรรมกายของคริสต์) ชื่นชมความงามของวัดอย่างรวดเร็ว แล้วรีบออกมาเติมน้ำมันรถเพื่อที่จะเอารถไปคืนที่สนามบินในสภาพที่ฝาครอบล้อหายไปข้างนึง แต่โชคดีที่ซื้อประกันไว้ก็เลยไม่ต้องจ่ายอะไร เดินออกมาสวยๆ เพื่อเช็คอินและขึ้นเครื่องมา Los Angeles Continue reading “US Trip 2017 – Day 12”
Tag: Salt Lake City
US Trip 2017 – Day 11
วันนี้เป็นวันเบาๆ ไม่ได้ทำอะไรสักเท่าไหร่ เริ่มมาตอนเช้าตื่นจากโรงแรมออกมาทานอาหารเช้าที่ไดเนอร์ใกล้ๆ โรงแรม เสร็จแล้วก็เดินดูเมือง Jackson นิดๆ หน่อยๆ ก่อนที่จะขับรถกลับมาที่ Salt Lake City Continue reading “US Trip 2017 – Day 11”
US Trip 2017 – Day 3
วันนี้ตอนเช้ากว่าจะตื่นและออกจากบ้านได้ก็ประมาณ 10 โมง โดยตั้มเป็นผู้นำทัวร์พาไปทานอาหารเช้าที่ร้านแซนด์วิชที่มีชื่อว่า Even Stevens ซึ่งมารู้ที่หลังว่าเป็นเชนร้านแซนด์วิชที่อาจจะจัดได้ว่าเป็น Social Enterprise มีร้านอยู่ใน Utah, Arizona กับ Idaho โดยแนวคิดของเค้าคือทุกๆ แซนด์วิช 1 ชิ้นที่ขายได้ในร้าน เค้าจะเอาไปซื้อวัตถุดิบให้กับองค์กรต่างๆ ในการไปทำแซนด์วิชอีก 1 ชิ้น ซึ่งก็แล้วแต่ว่าองค์กรนั้นๆ จะเอาแซนด์วิชไปบริจาค หรือใช้เลี้ยงคนในองค์กรเพื่อประหยัดเงินก็ตามแต่ไป โดยนอกเหนือจากเรื่องการเป็น SE แล้ว อีกอย่างที่แอบโดนใจคือการแต่งร้านของมัน Continue reading “US Trip 2017 – Day 3”
US Trip 2017 – Day 2
วันนี้เริ่มต้นจากตอนตี 3 เมื่อ Butler โทรมาปลุก ก็รีบจัดแจงเก็บของ เช็คเอาท์ แล้วก็เรียก Uber มารับไปสนามบิน ทำการเช็คอิน เคลียร์งานอะไรนิดหน่อยก่อนที่จะเตรียมขึ้นเครื่องยาวนานระยะเวลา 16 ชั่วโมงจาก Doha ไปยัง Los Angeles เพื่อที่จะไปเจอกับพอผู้ร่วมทริปที่สนามบิน LAX ในช่วงบ่ายวันนี้ (ตามเวลาที่ Los Angeles)
เที่ยวบินรอบนี้คือ QR739 บินด้วยเครื่อง Boeing 777-200LR ที่นั่งเป็นแบบโบราณหน่อยจัดแบบ 2-2-2 แต่ว่าแอบยอมรับได้ เพราะว่า Qatar ทำการบล็อกที่นั่งข้างๆ ไว้ให้ จนสุดท้ายเนื่องจากเที่ยวบินนี้คนไม่ได้เต็มขนาดนั้น ที่นั่งที่บล็อกไว้เลยอยู่รอดมาถึงสุดท้าย ได้นั่งคนเดียวสบายใจไม่ต้องโดดข้ามคนอื่น Continue reading “US Trip 2017 – Day 2”
JP/US 2014 – Day 16
วันนี้ตอนเช้า ก็เริ่มต้นด้วยการทำอาหารเช้า โดยใช้ของที่เหลือจากเมื่อวาน และไข่ไก่สดๆ จากไก่หลังบ้าน กว่าจะทำ กว่าจะกิน กว่าจะเก็บล้าง กว่าจะอาบน้ำแต่งตัว ก็เริ่มวันนี้ได้สายๆ
กำหนดการวันนี้เราเริ่มจากการไป Museum of Fine Arts ใน Utah University ที่ปกติจะมีค่าเข้า $8 แต่วันนี้พอเราไป เขาบอกว่าวันนี้ระบบคอมพิวเตอร์เขาเสีย ไม่สามารถออกตั๋วให้ได้ เลยเปิดให้เข้าชมฟรี ในนั้นก็มีงานแสดงศิลปะมากมาย ส่วนใหญ่จะเป็นงานในอดีตกาลในยุคต่างๆ ย้อนไปถึงยุคกรีก โรมัน อียิปต์อะไรพวกนั้นเลยทีเดียว
งานศิลปะหลายๆ อันก็จะรู้สึกว่าโอ๊ยอะไรมันจะอาร์ตได้ขนาดนั้น มีอันหนึ่งเป็นวิดีโอความยาว 10 กว่านาที เป็นผู้หญิงปาหินใส่ถ้วยสีดำที่มีสีชมพูอยู่ในนั้นวางเรียงบนชั้นสีดำเป็นร้อยๆ อันจนหมดทุกอัน ไม่แน่ใจว่าจะสื่ออะไรเหมือนกัน
หลังจากที่ซึมซับความอาร์ตเข้าไปถึงซอกก้นแล้ว เราก็ไปรับความรักจากพระเจ้ากันต่อที่ Temple Square เป็นวัดของศาสนาคริสต์นิกาย LDS เลยทำให้เพิ่งรู้เหมือนกันว่า Salt Lake City เป็น Holy City ของนิกายนี้ ดูรวยมาก มีจอทัชสกรีนสำหรับ Visitor Information ที่ฮายโซวมาก แถมตึก HQ ใหญ่สาด
ตอนเราเข้าชม ก็ไปเจอกับมิชชันนารี 2 คนที่พยายามจะเข้ามาขายตรงพระเจ้าให้กับเรา แต่เนื่องจากพวกเราบาปหนา ความรักจากพระเจ้าจึงเข้าไม่ถึงเท่าไหร่ ได้แต่เออๆ ออๆ ไป จนสุดท้ายเขาก็ให้ไบเบิลเรามา อาห์…
หลังจากไปสัมผัสพระเจ้าแล้วในช่วงเย็น ตอนกลางคืนเราจึงตัดสินใจไปเที่ยวผับเที่ยวบาร์ต่อ และก็ค้นพบว่าช่างเป็นเมืองที่เงียบเหงาเสียนี่กระไร จึงตัดสินใจกลับมานอน สิ้นสุดอีกหนึ่งวัน
หมายเหตุ: โพสท์นี้เป็นโพสท์ย้อนหลัง
JP/US 2014 – Day 15
วันนี้เป็นวันที่เดินทางโหดที่สุดอีกหนึ่งวัน เพราะต้องเดินทางจาก South Lake Tahoe ข้ามรัฐ Nevada ไปยัง Salt Lake City ที่ Utah ซึ่งมีระยะทางรวมประมาณ 800 กว่ากิโลเมตร ที่โหดร้ายที่สุดคือ ต้องเดินทางให้จบภายในหนึ่งวัน โดยมีคนขับเพียงคนเดียว ไม่มีตัวแสดงแทน
ในตอนเช้าเราตัดสินใจออกเดินทางตั้งแต่เวลาประมาณตี 4 ค่อยๆ ขับรถมา ซึ่งจริงๆ แล้วทางที่ขับส่วนมากไม่ได้ยากอะไร เพราะถนนก็ดี และไม่ได้มีความซับซ้อนชวนหลงอะไร แต่เพราะมันไม่มีอะไรเลยทำให้ความยากอยู่ที่การจะพยายามไม่ให้หลับ แผนการขั้นต้นตอนแรกจึงเริ่มจากการหาเครื่องดื่มที่มีคาเฟอีนกิน เนื่องจากว่าเป็นคนไม่กินกาแฟ เลยหาพวกโซดาที่มีคาเฟอีนนิดหน่อยมา ปรากฎว่าไม่เป็นผล จึงตัดสินใจอัปเกรดเป็นกาแฟดีกว่า
ด้วยความที่ไอ้เราก็ไม่ใช่คนทานกาแฟ ไม่รู้เรื่องห่าเหวอะไรกับกาแฟเลย เลยต้องเมสเสจถามกอล์ฟให้ช่วยเขียนรหัสลับ Starbucks ที่จะสั่งกาแฟอะไรสักอย่างมาให้ ที่มีเงื่อนไขว่าให้คนที่ไม่ชอบรสขมของกาแฟอย่างตัวฉันเองสามารถพอจะแดกเข้าไปได้
ผลคือ…ไม่สำเร็จ!!! ยังง่วงอยู่ดี สุดท้ายการขับจึงจำเป็นต้องมีการแวะพักบ่อยมาก หลายๆ ครั้งแวะเพื่อคิดว่าจะงีบหลับ แต่พอหยุดรถก็หายง่วงซะงั้น ก็ขับใหม่ พอเริ่มขับก็ง่วงใหม่ เยี่ยมค่ะ! บรรลัยมันเข้าไป
จริงๆ ที่น่าสงสารกว่าคนขับ คือคนที่นั่งมาด้วย เพราะกลายเป็นว่าก็หลับไม่ได้ และต้องพยายามทำให้คนขับไม่หลับ คอยชวนคุยเรื่องนั่นเรื่องนี้จนไม่รู้จะขุดเรื่องห่าเหวอะไรมาคุย แถมบางเรื่องไม่น่าสนใจพอคุยไปก็ง่วงอยู่ดีอีก จนกระทั้งประมาณ 300 กิโลเมตรสุดท้าย เราก็ค้นพบสูตรลับ!
นั่นคือการคุยเรื่องเซ็กซ์! ได้ผลเกินคาด ตาสว่างอย่างไม่เคยเป็นมาก่อน พับผ่าเถอะ ยิ่งกว่าแดกยาบ้าห้าล้านมิลลิกรัม จำได้ว่าช่วงแรกทำให้ระยะทางประมาณ 150 กิโลเมตรหายไปไวอย่างกับเอาน้ำมาล้างออก ส่วนช่วงหลังเริ่มช้าลงเพราะเริ่มจะหมดเรื่องเซ็กส์จะคุยกันแล้วเหมือนกัน แต่ก็ต้องขอขอบคุณตั้ม ณ โอกาสนี้ที่พยายามขุดเรื่องมาคุย จนสามารถเดินทางถึง Salt Lake City โดยสวัสดิภาพ
เมื่อถึงแล้ว ในวันนี้เราจะพักกับโฮสต์ Airbnb ชื่อว่า Scott ความเร้าใจก็เกิดขึ้นอีกครั้ง เมื่อเราหาบ้านของ Scott ไม่เจอ! ประเด็นคือเรารู้ที่อยู่ และคีย์ที่อยู่ลงแผนที่แล้วก็ได้จุด แต่พอเราไปที่จุดแล้วเราหาบ้านเลขที่นั้นไม่เจอ วนไปวนมาอยู่หลายรอบ จนกระทั้งเราพบกว่าคุณ Scott ผู้น่ารักของเรา เขียนบ้านเลขที่ไว้ที่บันไดบ้าน
บันไดบ้าน!!! อีห่าราก เป็นเหตุผลที่เราหาบ้านเลขที่นั้นไม่เจอ แม้ว่าจะขับผ่านประมาณ 75 ล้านรอบแล้วก็ตาม
เมื่อมาถึงก็ไม่มีใครอยู่ แต่เราเข้าได้ด้วยรหัสผ่านที่ Scott ให้ไว้ก่อนหน้า เข้าไปก็เจอกับแมว 2 ตัว แต่สิ่งหนึ่งที่น่าสนใจของบ้านนี้คือ หลังบ้านมีสวนปลูกผักเลี้ยงไก่ นี่มันบ้าน The Sims ชัดๆ โดยมี Brent รูมเมทของ Scott ที่มีสกิล Gardening เต็ม 10 ปลูกผักอยู่หลังบ้าน
ในตอนเย็นเราก็ไปซื้อของกึ่งสำเร็จรูปที่ซุปเปอร์ฯ ใกล้บ้าน แล้วเอากลับมาทำที่ครัวที่บ้าน ก็จบไปอีกหนึ่งวัน
หมายเหตุ: โพสท์นี้เป็นโพสท์ย้อนหลัง