วันนี้ผมเพิ่งทำกำไรจาก iPhone 4S มาอีก 2,000 บาท โดยการขายเครื่องเก่า แล้วซื้อเครื่องใหม่โดยใช้โปรโมชันของทรูที่ติดสัญญา 18 เดือน (ซึ่งผมใช้แพคเกจราคานั้นอยู่แล้ว เลยไม่รู้สึกอะไร)
แต่นั่นไม่ใช่ประเด็นหลัก แค่ว่าเหตุการณ์นี้ทำให้ผมนึกถึงเรื่องหนึ่งที่อยากเขียนบล็อกมานาน แต่ยังไม่ได้เขียนสักที นั่นคือเรื่องของมูลค่าของอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ กับเรื่องของเวลา
ผมคิดว่าอย่างหนึ่งที่คนทั่วไปมักจะลืมคิดไปเวลาซื้อของชิ้นใหญ่ๆ อะไรก็ตาม นอกเหนือจากเรื่องของราคา และความพึงพอใจแล้ว สิ่งที่ควรพิจารณาประกอบกัน คือเรื่องของกรอบเวลา ค่าดูแลรักษาและความเสี่ยงด้วย
หากยกตัวอย่างง่ายๆ ถ้าเรากำลังจะซื้อคอมพิวเตอร์เครื่องหนึ่ง นอกจากเรื่องของสเปคเครื่อง รูปลักษณ์ (สองอย่างนี้คือความพึงพอใจของเรา) และราคาแล้ว อีกสิ่งหนึ่งที่เราต้องนึกถึง คือเราจะใช้คอมพิวเตอร์เครื่องที่ว่าไปนานเท่าไหร่ เราจะต้องมีค่าใช้จ่ายเพื่อใช้ในการดูแลรักษาเครื่องนี้ให้ใช้งานได้ตามกรอบเวลาที่เราต้องการเท่าไหร่ และมีความเสี่ยงมากน้อยแค่ไหนที่จะเกิดการสูญเสียมากกว่าที่เราประเมินไว้
หากยกตัวอย่างง่ายๆ ผมอาจจะพิจารณาระหว่างซื้อคอมพิวเตอร์ราคา 60,000 บาท โดยตั้งใจว่าจะใช้ 3 ปี หรือจะซื้อคอมพิวเตอร์ 30,000 บาทที่จะใช้ปีครึ่ง แล้วค่อยซื้อเครื่องใหม่ ซึ่งในเวลานั้น เงิน 30,000 บาทอาจจะซื้อเครื่องได้ใกล้เคียงกับคอมพิวเตอร์รุ่น 60,000 บาทในปัจจุบันก็ได้ (อันนี้คิดง่ายๆ แบบไม่มีดอกเบี้ย)
ซึ่งหลายครั้งที่เวลามีคนมาปรึกษาผมเรื่องจะซื้อคอมพิวเตอร์ หลายๆ คนมักจะไม่สามารถตอบคำถามของผมได้เมื่อผมถามกลับว่า “ตั้งใจจะใช้นานเท่าไหร่” ทั้งๆ ที่ระยะเวลานี้ มีผลสำคัญมากว่า เราจะเลือกให้ความสำคัญกับการใช้จ่ายเงินอย่างไร เช่น ถ้าเราตั้งใจจะใช้นาน เราอาจจะยอมได้สเปคที่ต่ำกว่า เพื่อแลกกับแบรนด์ที่อาจมีความคงทนมากกว่า หรือถ้ามีการประมาณการค่าดูแลรักษาไว้แล้ว ก็อาจจะเลือกยี่ห้อที่มั่นใจว่าซ่อมง่ายในไทยไปเลย
สำหรับโทรศัพท์มือถือก็เช่นเดียวกัน เมื่อก่อนตั้งแต่มือถือเครื่องแรกๆ ของผม ผมจะตั้งเป้าไว้ที่ 18 เดือน โดยมักจะซื้อในงบประมาณ 16,000 บาท
ยอมรับว่าตอนผมซื้อ iPhone 3GS เครื่องแรก ผมยังไม่ได้คิดถึงเรื่องประเด็นนี้มากนัก แต่พอหลังจากที่ iPhone 4 ออก แล้วก็พบว่าเราอยากจะใช้ iPhone 4 อีก ตอนซื้อ iPhone 4 เลยเริ่มพิจารณาเรื่องนี้มากขึ้น ซึ่งสิ่งที่ผมสังเกตพบ และเป็นข้อแตกต่างที่สำคัญจากการใช้มือถือรุ่นก่อนๆ ของผม กับการใช้ iPhone คือ การขายต่อนั้นทำได้ง่ายมาก และมีมูลค่ามากกว่าที่เราจินตนาการไว้เสมอ
และผมพบว่า การที่เราซื้อผลิตภัณฑ์ของแอปเปิลอันล่าสุดเสมอ ซึ่งมักจะออกทุกๆ ในกรอบเวลา 1 ปี แล้วขายอันเก่าทิ้งไป เป็นตัวเลือกที่มีความคุ้มค่ามากที่สุดในหลายๆ ประการ ได้แก่
- เราจะได้ใช้ผลิตภัณฑ์ที่ดีที่สุดเสมอ (ซึ่งจะมีมูลค่ากับคนที่อินในเทคโนโลยีอย่างผมเป็นพิเศษ) อันนี้เป็นปกติของเทคโนโลยี
- เราจะได้ใช้อุปกรณ์ในช่วงกรอบระยะเวลาประกัน 1 ปี ซึ่งมูลค่าที่ซ่อนอยู่ของการอยู่ในประกัน มักเป็นมูลค่าที่ตลาดสินค้ามือ 2 มักมองข้าม หรือไม่สามารถตีราคาได้อย่างชัดเจน ซึ่งมักเป็นมูลค่าที่ไม่ได้เพิ่มราคาขายต่อสักเท่าไหร่ แต่เป็นประโยชน์ในช่วงเวลาที่เราถือครองผลิตภัณฑ์นั้นๆ
- ผลิตภัณฑ์ของแอปเปิลมักเปลี่ยนแบตเตอร์รี่ไม่ได้เองง่ายๆ ซึ่งแบตเตอร์รี่ก็มักจะมีอายุการใช้งานที่แย่ลงไปมากหลังจากผ่านไปหนึ่งปี เช่นเดียวกันเป็นสิ่งที่ตลาดสินค้ามือ 2 มองไม่เห็น และไม่ส่งผลต่อราคาขายต่อโดยตรง การซื้อของใหม่จะทำให้เราได้ใช้แบตเตอร์รี่ที่ดีที่สุดเสมอด้วย
- มูลค่าของ iPhone มือสองจะตกลงอย่างรวดเร็วหลังจากช่วง 1 ปีเป็นต้นไป การรีบขายในช่วงกรอบประมาณ 1 ปีจึงเป็นจังหวะที่มีความคุ้มค่าที่สุด
ซึ่งหากมองย้อนกลับไปแล้ว ในช่วงการใช้ iPhone ทั้งสามเครื่องของผมที่ผ่านมา ผมจะใช้เงินประมาณตกปีละ 6,000 – 8,000 บาท เพื่อใช้เครื่องรุ่นล่าสุดเสมอ (รวมถึงค่าใช้จ่ายแฝงอื่นๆ อันเกิดจากการเปลี่ยนเครื่องใหม่ เช่นฟิล์ม) ซึ่งตัวเลขนี้หากเทียบเอาตามมูลค่าง่ายๆ แบบไม่คิดดอกเบี้ย ก็เท่ากับใช้เครื่องรุ่น 21,000 บาทเป็นเวลาประมาณ 3 ปีแล้วเปลี่ยนเครื่องใหม่ไปเลย แต่ต่างกันตรงที่ สองปีหลังจะได้ใช้รุ่นล่าสุดด้วย และตลอด 3 ปีมีประกันยาวทั้งหมด นอกจากนี้กรณีที่เรามีทรัพย์สินมากพอที่จะเอามาจมอยู่ในโทรศัพท์ เราก็สามารถเลือกใช้รุ่นแพงได้ โดยไม่ได้เพิ่มค่าใช้จ่ายต่อปีมากเท่ากับการซื้อเพื่อใช้จนทิ้ง
แถมตัวเลขที่ว่านี้ ยังน้อยกว่าสมัยก่อนผมใช้ iPhone เสียอีก
สุดท้ายนี้ อยากลองแนะนำให้ทุกคนลองย้อนดูประวัติการใช้โทรศัพท์มือถือ (หรืออุปกรณ์มูลค่าสูงอื่นๆ) ของตนเองดูครับว่า เรามีค่าใช้จ่ายที่แท้จริงต่อปีเท่าไหร่ และเรามีตัวเลือกที่จะใช้เงินน้อยลงเพื่อให้ได้ความพอใจเท่าเดิม หรือใช้เงินเท่าเดิมเพื่อความพอใจที่มากขึ้นหรือไม่
หวังว่าจะทำให้ทุกคนใช้เงินได้คุ้มค่าขึ้นครับ
อีกเหตุผลที่จะให้ Greenpeace คอยจิกกัด Apple ได้ต่อไปสินะ
ถ้า 2nd hand market active ก็ต้องแปลว่ามันยิ่งใช้นาน และอยู่กับหลายคนสิ
ผมตอบได้…มั้ง
จำได้ว่าพี่นัทเคยบอกให้ซื้อไอโฟนแล้วใช้ 9 ปี